4 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) แถลงภายหลังเป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครบรอบ 19 ปี และการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานปีงบประมาณ 2564 ให้กับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด ทส. ทั่วประเทศ โดยโชว์ผลงานเด่น ปี 2564 ภายใต้นโยบาย "ทส.หนึ่งเดียว" และ "ทส.ยกกำลังสองบวกสี่" พร้อมเดินหน้าทำงานต่อปี 2565 โดยชูนโยบาย "ทส.ยกกำลัง X"
โดยนายวราวุธ กล่าวว่า แม้ในปีที่ผ่านมาจะอยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การทำงานภายใต้นโยบาย "ทส.หนึ่งเดียว" และ "ทส.ยกกำลังสองบวกสี่" ไม่เคยหยุดนิ่ง โดยเฉพาะการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้กับชุมชน ภายใต้โครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ไปแล้วกว่า 3.6 ล้านไร่ เร่งแก้ไขปัญหาส่วนราชการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต จำนวน 101,354 คำขอดำเนินการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า จำนวน 407,655 ไร่
นายวราวุธ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถลดจุดความร้อนได้กว่าร้อยละ 50 ด้านงานป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร เพชรบุรี นครศรีธรรมราช จันทบุรี และตราด ด้วยมาตรการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น รวมระยะทางกว่า 11.1 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำปะการังเทียมจากขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม 7 ขาแท่น สำรวจถ้ำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดัย จำนวน 15 ถ้ำ อนุรักษ์โครงกระดูกวาฬอำแพง และการขอรับรองสถิติโลก "ไม้ตาก" ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก รวมทั้งการประกาศจัดตั้ง “อุทยานธรณีชัยภูมิ” จ.ชัยภูมิ เป็นอุทยานธรณีแห่งที่ 7 ของประเทศ การประกาศให้ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ”เป็นแห่งที่ 3 ของประเทศ และการได้รับการรับรองให้ “ดอยเชียงดาว” เป็น “พื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลก” เป็นแห่งที่ 5 ของประเทศ
สำหรับก้าวต่อไปในปี 2565 นายวราวุธ เผยว่า จะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เป็นปีแห่งการปรับตัวและฟื้นฟูเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน การใช้ทรัพยากรจะเกิดความคุ้มค่าสูงสุดเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับชุมชน ภายใต้นโยบาย “ทส. ยกกำลังเอ็กซ์” มองไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด มุ่งสู่วิสัยทัศน์ “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” เดินหน้า 2 เป้าหมายหลัก ได้แก่
เป้าหมายที่ 1 การสร้างเศรษฐกิจครัวเรือน สังคมมีสุข ชุมชนเข้มแข็ง ประกอบด้วย การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ คทช. และพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน รวมทั้งการจัดที่ดินทำกินและอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ การจัดตั้งป่าชุมชน การปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และการป้องกันไฟป่า รวมทั้งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกให้กับประเทศไทย เพื่อการแบ่งปันคาร์บอนเครดิต ตลอดจนยกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อเสริมรายได้ให้กับชุมชนรอบพื้นที่ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศ การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตามมาตรการ ขาว-เขียว-เทา การจัดแบ่งระบบกลุ่มหาด การสร้างความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นสำรวจและจัดทำแผนการจัดการสถานการณ์ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ อปท. ที่มีสถานการณ์รุนแรง และประสานให้มีเตาเผาขยะติดเชื้อครอบคลุมทุกจังหวัด การพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำผิวดินและการพัฒนาขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ คทช. พื้นที่โครงการในพระองค์และโครงการพระราชดำริ และพื้นที่แล้งซ้ำซาก
และเป้าหมายที่ 2 การมุ่งสู่เศรษฐกิจแบบใหม่ (BCG Model) และสังคมคาร์บอนต่ำ ประกอบด้วย การส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) การส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนที่นำทางการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย การจัดทำ Environment Map ส่งเสริมการประเมินมูลค่าทรัพยากรและการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ทั้งการจัดทำระบบบัญชีเศรษฐกิจทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนจัดทำผังภูมินิเวศระดับภาคเพื่อการพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่รองรับและลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและสังคมคาร์บอนต่ำให้ครบทุกภูมิภาค ภายในปี 2570 รวมทั้ง การพัฒนาระบบ Digital Platform และการนำนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการ
ทั้งนี้ จะยังคงมุ่งรักษาฐานทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ มีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อส่งต่อถึงคนในรุ่นอนาคต และเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืนให้กับชุมชนเพื่อความสุขของคนไทยและการร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ดังวิสัยทัศน์ “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”