ราชทัณฑ์ เผย ผู้ต้องขังกว่าครึ่งได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว

2 ตุลาคม 2564 เวลา 12.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 184 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 144 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 40 ราย) รักษาหายเพิ่ม 574 ราย ไม่มีรายงานการเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 3,958 ราย (กลุ่มสีเขียว 80.9% สีเหลือง 18.6% และสีแดง 0.5%)

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบการระบาดซ้ำในเรือนจำเพิ่ม 1 แห่ง คือ เรือนจำกลางคลองเปรม ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดงเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 22 แห่ง และเรือนจำสีขาว 120 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 64,053 ราย หรือกว่า 91.5% ของผู้ติดเชื้อสะสม 70,012 ราย เสียชีวิตสะสม 153 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในระยะนี้ค่อนข้างชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายยังต้องร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดอย่างเคร่งครัดต่อไป ทั้งการกักตัวผู้ต้องขังรับใหม่ การตรวจหาเชื้อก่อนปฏิบัติงานและดูแลตนเองไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงของเจ้าหน้าที่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องตลอดเวลา และหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้ออยู่เสมอ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิผล และควบคุมจำนวนเรือนจำแพร่ระบาดให้ลดลงได้อย่างเป็นระบบ

โดยปัจจุบัน มีเรือนจำที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาดทั้งสิ้น 7 แห่ง เป็นเรือนจำระบาดใหม่ 5 แห่ง และเรือนจำระบาดซ้ำ 2 แห่ง ขณะที่มีเรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT แล้ว จำนวน 15 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะทยอย EXIT ได้ทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้ สำหรับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคแก่ผู้ต้องขัง ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 200,017 โดส เพิ่มขึ้น 5,363 โดสจากเมื่อวานโดยเป็นการฉีดเข็มที่ 1 แก่ผู้ต้องขังจำนวน 142,479 ราย หรือ 50% และเข็มที่ 2 จำนวน 57,538 ราย หรือ 20.2% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด