svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ไตรยฤทธิ์" อธิบดี DSI แถลงนโยบาย ปี 65 เน้น 7 กลุ่มคดี

01 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ไตรยฤทธิ์" อธิบดี DSI แถลงนโยบาย ปี 65 "มิติใหม่แห่งการสอบสวนคดีพิเศษ" เน้น 7 คดีหลักให้สำเร็จ ขับเคลื่อนตามหลักนิติธรรมให้ความเป็นธรรมต่อสังคม เชื่อข้าราชการเติมเต็มศักยภาพทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

1 ตุลาคม 2564 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดี DSI แถลงนโยบายกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปี 2565 "มิติใหม่แห่งการสอบสวนคดีพิเศษ" ว่า ขอสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชน นับตั้งแต่วันนี้เราจะเร่งดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมาขึ้น ภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล 

 

เราจะเร่งรัด 7 คดีที่เป็นเป้าหมายพิเศษ คือ 

1.คดีรถหรู ที่ยังค้างอยู่ 1,428 คัน มูลค่า 9,800 ล้านบาท 

2.คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่เราจะเน้นการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 

3.ขบวนการฉ้อค่าภาษีรัฐหรือการค้าของเถื่อน ยังค้าง 6 คดี มูลค่า178,000 ล้านบาท 

4.คดีเวบไซต์พนันออนไลน์ ที่แพร่ระบาดจำนวนมาก มูลค่าความเสียหาย 900,000 ล้านบาท 

5.คดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ให้คนไทยถือกรรมสิทธิ์แทน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวค้างอยู่ 12 คดี มูลค่า 46,000 ล้านบาท 

6.การฮั้วประมูล การจัดซื้อจัดจ้าง ค้างอยู่  คดี มูลค่า 7,000 ล้านบาท

7.การบุกรุกพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ นี่คือสิ่งที่เราจะเร่งรัดเพราะมูลค่าความเสียหายมากมายเหลือเกิน 

"ไตรยฤทธิ์" อธิบดี DSI แถลงนโยบาย ปี 65 เน้น 7 กลุ่มคดี

 นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานด้านคดีพิเศษ ในทุกเรื่องมีกระบวนงานที่ขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ ตามระเบียบกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าด้วยการบริหารงานคดีพิเศษ อย่างชัดเจน มีกระบวนงานควบคุม ตรวจสอบ และเร่งรัดให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างมาตรฐานในการควบคุม กำกับดูแล มีท่านรองอธิบดีซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การทำงานสูง เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนงานให้สำเร็จ ลุล่วงไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ในฐานะอธิบดี DSI ที่มีความรับผิดชอบฐานะพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ขอยืนยันว่าในทุกคดีพิเศษของ DSI จะอยู่บนพื้นฐานของพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ทุกคดีถือว่ามีความสำคัญและจะต้องขับเคลื่อนไปตามหลักนิติธรรม ขอยืนยันจะใช้หลักนิติธรรมมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรม เป็นความกล้าในการดำเนินคดีพิเศษอย่างเป็นมาตรฐานในทุกคดี ที่อยู่ในความรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นคดีใดก็ตาม

 

 นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการบังคับสูญหายและทรมาน ทราบเบื้องตันว่ามีเรื่องที่อยู่ระหว่างการสืบสวน 2 เรื่องจะได้เข้าไปตรวจสอบและติดตามการดำเนินการต่อไป สำหรับร่างกฎหมายอยู่ระหว่างการดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย แนวทางในการปฏิบัติงานเรื่องนี้ ต้องขอเรียนว่ากรณีการบังคับให้สูญหายและทรมาน เป็นเรื่องที่สำคัญการดำเนินการสืบสวนสอบสวน ต้องมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการแสวงหาพยานหลักฐาน และให้ความสำคัญกับพยานหลักฐาน โดยจะนำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ในการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานในคดีพิเศษให้มีความมั่นคง โปร่งใส เชื่อถือได้ 

"ไตรยฤทธิ์" อธิบดี DSI แถลงนโยบาย ปี 65 เน้น 7 กลุ่มคดี

รวมทั้งการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิศษให้เกิดประสิทธิภาพ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ โดยจะสร้างหน่วยนวัติกรรมทางเทคโนโลยี ขึ้นมาสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง

 

กรณีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด ตามกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช. oนั้น DSI ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจะได้ร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ในการดำเนินการกรณีดังกล่าวให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป 

 

DSI ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการป้องกัน ปราบปราม อาชญากรรมพิเศษตามหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และคนอาจจะมองว่าเราเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในฐานะอธิบดี DSI เราจะนำมาตรฐานสากลตามเกณฑ์หลักนิติธรรมขององค์การสหประชาชาติ มาเป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านคดีพิเศษ ในทุกคดีพิเศษของ DSI จะอยู่บนพื้นฐานของพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ทุกคดีถือว่ามีความสำคัญและจะต้องขับเคลื่อนไปตามหลักนิติธรรม จึงขอยืนยันจะใช้หลักนิติธรรม มาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมเป็นความกล้าในการดำเนินคดีพิเศษอย่างเป็นมาตรฐานในทุกคดี ที่อยู่ในความรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นคดีใดก็ตาม

 

"หลายคนอาจมองว่า DSI เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 แต่เรามีความเป็นสหวิชาชีพ มีข้าราชการที่มีที่มาแตกต่างกันรวมทั้งข้าราชการตำรวจ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หลากหลาย เป็นสหวิทยาการ ที่นำมาบูรณาการการทำงานคดีพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตนเคยเป็นนายแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบกับได้รับราชการใน DSI มาก่อนในตำแหน่งรองอธิบดี และมีโอกาสได้รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านผู้บริหารที่มาจากตำรวจมาระยะหนึ่ง ถือว่าสามารถสอดคล้องส่งเสริมเติมเต็มศักยภาพของ DSI ได้เป็นอย่างดียิ่ง

 

นอกจากนี้เราเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆที่ทันสมัยและพัฒนาบุคคลากร จึงไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เหมือนได้กลับบ้านมากกว่า เชื่อว่าเราจะทำได้สำเร็จ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ

logoline