svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สิงห์ศึก"กางผลงานส.ว.2 ปี เร่งแผนปฏิรูป ชี้วัฒนธรรมองค์กรยังเป็นอุปสรรค

29 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สิงห์ศึก" ปลื้มประชาชนพอใจโครงการ ส.ว.พบประชาชน ชี้ทัศนคติ-วัฒนธรรมองค์กรเป็นปัญหาต่อการปฏิรูปตำรวจและการศึกษา ลั่นหากไม่ปรับองค์กรจะอยู่ไม่ได้  

29 กันยายน 2564 พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานกรรมการ คณะกรรมการอำนวยการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ส.ว. นั้นเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่ต่าง ๆ เหมือนกับ ส.ส. แต่ภาระหน้าที่ทั้งงานด้านการกลั่นกรองกฎหมาย การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศต่างเกี่ยวข้องกับประชาชน จึงได้เกิดโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนขึ้น เพื่อให้ ส.ว. ลงไปพบปะแลกเปลี่ยนสะท้อนปัญหาจากประชาชน เพื่อนำปัญหามาเสนอไปยังกลไกของวุฒิสภาผ่านกรรมาธิการสามัญ ส่วนเรื่องใดที่มีข้อกฎหมายหรือมติ ครม.ที่ชัดเจนอยู่แล้วก็จะส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมตรีเพื่อดำเนินการ และตลอด 2 ปีที่ผ่านมาพบว่าประชาชนมีความพึงพอใจต่อโครงการนี้ 

 

พลเอกสิงห์ศึก ยังกล่าวถึงภารกิจของ ส.ว.ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ว่า ตามแผนงานเบื้องต้นนั้นการปฏิรูปประเทศจะต้องเสร็จสิ้นในปี 2565 ซึ่งถือว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นครั้งแรกที่มีแผนยุทธศาสตร์ชาติกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และมีเรื่องของการปฏิรูปประเทศ โดยเบื้องต้นนั้นมี 12 ด้าน แต่ภายหลังทางคณะรัฐมนตรีได้มีการปรับปรุง ทำให้ปัจจุบันมี 13 ด้าน 

 

"สิงห์ศึก"กางผลงานส.ว.2 ปี เร่งแผนปฏิรูป ชี้วัฒนธรรมองค์กรยังเป็นอุปสรรค

 

ส่วนความคืบหน้านั้น พลเอกสิงห์ศึก กล่าวว่า บางเรื่องเป็นเรื่องของการปรับกระบวนการของหน่วยงานราชการ การปรับทัศนคติ การบูรณาการในระบบงบประมาณ โดยขณะนี้ทราบว่าทาง กพร.ได้มีการดำเนินการประเมินข้าราชการแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้มี ครม. ก็มีมติให้ประเมินผลสัมฤทธิ์หัวหน้าหน่วยงานที่ดำเนินการประสบความสำเร็จในเรื่องของการปฏิรูปประเทศ หรือการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ดังนั้นหัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ หากไม่สนองงานด้านการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ทาง ส.ว.ก็มีหน้าที่ที่จะรายงานตามข้อเท็จจริง และมีการประเมินผลนี้ก็จะเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่จะส่งผลต่อความก้าวหน้าในหน้าที่ต่อไป 

 

ทั้งนี้พลเอกสิงห์ศึก กล่าวถึงการปฏิรูปตำรวจและการปฏิรูปการศึกษา ที่สังคมไทยต่างให้ความสนใจอยู่ ว่า ขณะนี้กฎหมายปฏิรูปตำรวจอยู่ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ซึ่งเป็นธรรมดาของกฎหมายที่จะต้องเริ่มต้นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่จะแก้ไขกฎหมายตำรวจก็คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นอะไรที่จะไปทำให้เกิดความลำบากมากขึ้น หรืออะไรที่ทำให้สุขสบายน้อยลง ก็พยายามที่จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าไว้  ซึ่งมองว่าปัจจุบันกฎหมายควรต้องเขียนขึ้นใหม่ เพราะหากไปแก้ไขเล็ก ๆ น้อย ๆ บางเรื่องบางราวที่ยังไม่ได้รับการแก้ ก็ยังติดค้างอยู่บ้าง เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นปัญหาอยู่ 

 

"สิงห์ศึก"กางผลงานส.ว.2 ปี เร่งแผนปฏิรูป ชี้วัฒนธรรมองค์กรยังเป็นอุปสรรค

 

 

ส่วนด้านการศึกษา พลเอกสิงห์ศึก กล่าวว่า พ.ร.บ.การศึกษาเป็นกฎหมายฉบับแรกที่รัฐต้องให้ความสนใจ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขไปแล้วแต่ส่วนใหญ่จะเป็นกฎหมายของกระทรวงอุดมศึกษา แต่ในระดับกระทรวงศึกษาธิการนั้นยังไม่มี ซึ่งขณะนี้กำลังจะแก้ไข แต่ก็มีปัญหาอยู่ในเรื่องของอำนาจหรือวิถีเก่าที่ยึดโยงมานาน ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนทำให้ถูกต้องเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและของเด็กจริงๆ

 

"ทัศนคติและวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะบางครั้งการแก้กฎหมายแล้วไปขัดวัฒนธรรมองค์กรทำให้การแก้ไขทำได้ยาก ดังนั้นจึงต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติหรือปรับให้เข้าสู่ยุคสมัยตามสังคม แต่หากยังจะฝืนไปต่อไปหน่วยงานก็จะอยู่ไม่ได้" พล.อ.สิงห์ศึก กล่าว 

 

"สิงห์ศึก"กางผลงานส.ว.2 ปี เร่งแผนปฏิรูป ชี้วัฒนธรรมองค์กรยังเป็นอุปสรรค

logoline