27 กันยายน 2564 หลังจาก คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติงบประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ให้กับกองทุนประชารัฐสวัสดิการ แบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 4 ประเด็น ได้แก่
ในส่วนของการช่วยเหลือผู้พิการ สำหรับเบี้ยความพิการที่เติมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ทุกวันที่ 22 ของเดือน ซึ่งจะสิ้นสุดไปในเดือนกันยายน 64 ล่าสุด ครม. ได้มีมติอนุมัติ ขยายสิทธิเบี้ยผู้พิการในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 200 บาท ถึงเดือนกันยายน 2565
การรับเบี้ยความพิการ จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือนนั้น (รวมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 200 บาท) สำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดที่ ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการและขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นจำนวน 27,005.66 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้
1. วงเงิน 2,018 ล้านบาท เพื่อขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำ ค่าไฟ ตั้งแต่เดือนต.ค. 64 – ก.ย. 2565 (รวมระยะเวลา 12 เดือน) แบ่งเป็น
2. วงเงิน 18,815 ล้านบาท สนับสนุน ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการเพิ่มเบี้ยความพิการ
3. วงเงิน 1,642 ล้านบาท ดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อรองรับกระบวนการลงทะเบียนรอบใหม่ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการบัตรฯ
4.วงเงิน 4,530.66 ล้านบาท สำหรับจัดสรรสวัสดิการแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) หรือ บัตรคนจน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีบัตรฯ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจทำให้ผู้สมัครรอบใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น
“การช่วยเหลือลดอัตราค่าน้ำ ค่าไฟ ตลอดจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่รัฐบาลห่วงใยเพื่อให้สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้ รวมทั้งการยกระดับและพัฒนา คุณภาพชีวิตแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี" นายธนกร ระบุ
ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ