23 ก.ย.64 ที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนซึ่งเดินทางมาปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี และทันทีที่ลงจากเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ได้มีทีมทนายความ พร้อมน.ส. กมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ “ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง และครอบครัวเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีเงิน 5,000,000 ล.ที่หายไปในขณะที่ตำรวจนำหมายศาลค้นบ้านยึดเงิน10ล.และทอง60บ.ไปสอบสวนที่เซฟเฮาส์
โดยทันทีที่ได้รับหนังสือร้องเรียนนายสิระ ได้มีการต่อโทรศัพท์สายตรงถึงพลตำรวจโทรณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงพร้อมกับเปิดลำโพงโทรศัพท์ให้ผู้สื่อข่าวที่มาเกาะติดสถานการณ์ได้ร่วมกันฟัง
ซึ่งผบช.ภ.9 ยืนยันว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับหนังสือที่ผู้เสียหายได้เข้ายื่นร้องเรียนขอความเป็นธรรมเรียบร้อยแล้ว
นายสิระ บอกว่าคดีนี้อาจต้องติดตามตรวจสอบใกล้ชิดเนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงการโยกย้ายตำแหน่งด้วยอาจทำให้เกิดความล่าช้า และจากการติดตามคดีดังกล่าวนี้อาจมีการยกให้เป็นกรณีตัวอย่างในการพิจารณานำไปสู่การออกร่างพรบ.อุ้มหายและทรมาร ตามกฎหมายยุติธรรมด้วย เพื่อปกป้องและดูแลผลประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ยังบอกว่าหลังจากเสร็จภารกิจที่จังหวัดปัตตานีในช่วงเย็นวันนี้จะเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียหายพร้อมกับนำตัวผู้เสียหายลงพื้นที่เกิดเหตุไปตรวจสอบเส้นทาง รวมถึงวงจรปิดต่างๆ โดยเฉพาะที่เซฟเฮาส์ซึ่งมีการพูดถึงว่าเป็นจุดหนึ่งที่นำมาสู่ประเด็นเงินที่หายไปจำนวน 5 ล้านบาทด้วย
ด้านนายไกรสร ชูเพชร ทนายความ เปิดเผยภายหลังการยื่นหนังสือให้กับนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการกฎหมายฯว่า จากได้รับฟังข้อมูลการชี้แจงจากฝั่งจนท.แล้วไม่ได้หนักใจและยืนยันผู้เสียหายได้รับเงินไม่ครบจำนวน คือเงินหายไป 5 ล้านบาท พร้อมตั้งคำถามกับสังคมหากผู้เสียหายได้รีบเงินครบจะร้องเรียนตำรวจทำไมเพื่อให้ตัวเองเดือดร้อน และมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่และเชื่อว่าขั้นตอนการทำงานของตำรวจคู่กรณีไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและอาจจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลด้วยซ้ำ
ข่าวโดย สุพิชฌาย์ รัตนะ / ภาพข่าวโดย จรูญ ทองนวล