ความกังวลของนักลงทุนเกิดขึ้นภายหลังบริษัท Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน และมีมูลค่าบริษัทกว่า 3 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯเกิดปัญหาทางการเงิน นำไปสู่ความกังวลเรื่องการชำระหนี้ ทำให้หุ้นของบริษัทร่วงลงกว่า 17% แม้มีการฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ร่วงลงไปอีก 12% ในช่วงบ่ายวันจันทร์ ลากตลาดหุ้นฮ่องกงลงมาจุดต่ำสุดในรอบปี
ปัญหานี้ลุกลามไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายอื่นในฮ่องกงเช่นกันทั้ง New World Development และ Henderson Land ที่ร่วงลงตามมาด้วยเช่นกัน จากการคาดการณ์ว่าทาง Evergrande หลังถูกเข้ามาควบคุมเข้มงวดจากทางรัฐบาลจะไม่สามารถทำการชำระหนี้บางส่วนตามกำหนดในอาทิตย์นี้ได้ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงความวุ่นวายโกลาหลต่อตลาดหุ้นและระบบเศรษฐกิจจีนรวมถึงประเทศอื่นทั่วทุกมุมโลก
สิ่งเหล่านี้เห็นได้ชัดจากสิ่งที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย จากดัชนีมาตรฐานปิดตัวต่ำลงกว่า 2.1% ในช่วงบ่ายวันจันทร์ จากราคาสินแร่เหล็ก สินค้าส่งออกหลักลดลงกว่า 60% เหลือต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หลังจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์กับการก่อสร้างในจีน และธุรกิจส่วนนี้จะยิ่งเลวร้ายหาก Evergrande ล่มสลายลงจริงๆ
การซื้อขายล่วงหน้าในตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯเองก็จะร่วงลง 1.3% นับแต่เปิดตลาดการซื้อขาย เมื่อรวมกับความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะยุติบทบาทการกระตุ้นเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดเป็นวงกว้างของเชื้อสายพันธุ์ในสหรัฐฯ รวมถึงการฟื้นตัวทั่วโลกที่เริ่มชะลอลงจะยิ่งเลวร้ายจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Evergrande
การประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯจึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะมีการกำหนดแผนการใหม่สำหรับโครงการซื้อพันธบัตรในปีที่แล้วเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและการลงทุน เช่นเดียวกับธนาคารกลางอีกหลายประเทศที่กำลังพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การซบเซาของตลาดการเงินจากการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้าเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก หลังจากรัฐบาลหลายประเทศต้องกลับมาประกาศใช้มาตรการเข้มข้นหรือชะลอแผนเปิดประเทศจากยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูง เช่นเดียวกับประเทศจีนเองที่ทำให้ผู้คนเกิดความกังวลในการฟื้นตัวของยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันรัฐบาลจีนยังไม่มีทีท่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสั่นคลอนของบริษัท Evergrande แม้ปัญหาในครั้งนี้กำลังจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนเป็นวงกว้างก็ตาม