รวบแล้ว ผัวใบ้พาเมีย ตระเวนขโมยของกลางคืน

7 กันยายน 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.ประทีป  ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู พ.ต.ท.เจษฎา  ศรีกวนชา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองหนองบัวลำภู พ.ต.ท.สมคิด  ชื่นชม สว.สส.สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ร่วมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.หนองบัวลำภู ร่วมกันแถลงข่าว หลังจาก เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ดังนี้    

                                                         

นายถวิลหรือท็อป  ขันธ์พัฒน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม. 3 บ้านหนองบัวโซม ต.หนองสวรรค์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู  และ น.ส.สุทิตหรือฟ้า  สุบินยัง  อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168/10 ม.2 ต.หนองบัว องเมือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยของกลาง  ลูกพลับ น้ำหนักรวมลังสีขาว 6  กก. ส้มเขียวหวานน้ำหนักรวมลังสีแดง  22  กก. แอปเปิลบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก น้ำหนัก  2  กก. ลองกอง น้ำหนักรวมลังสีแดง  16  กก. สายไฟสีดำพร้อมเต้าเสียบ จำนวน 1 เส้น  ลองกอง น้ำหนักรวมลังสีเหลือง  17  กก. แก้วมังกร รองเท้าบูตยางสีดำ  ตะกร้าไม้ ชามสีขามลาดดอกไม้ ขัน พร้อมกับ  รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน และรถเข็นน้ำ จำนวน 1 คัน 

 

โดยกล่าวหาว่า   “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือร่วมกันรับของโจร”  จับได้ที่   ริมถนนสาธารณะรอบเมืองหนองบัวลำภู ตรงข้ามสนามฟุตบอลกีรติ อารีน่า ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู  

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน สองสามีภรรยา ซึ่งฝ่ายสามีเป็นใบ้พูดไม่ได้ ส่วนภรรยานั้นยอมรับว่า ได้ร่วมกันกับสามี ออกมาตระเวนหาลักทรัพย์ภายในตลาดในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู มาหลายครั้งแล้ว เมื่อได้ของก็จะนำไปตระเวนขายตามหมู่บ้านในราคาถูก จะขโมยทุกอย่างที่พอจะเอาไปขายเป็นเงินได้ จะออกมาหาขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ตีหนึ่ง โดยจะใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่ นำสิ่งของใส่รถเข็นน้ำ กลับไปบ้าน   ซึ่งก่อนหน้านั้น ทางพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดไนท์และตลาดแลงแม่สำเนียง ได้มีสิ่งของผลไม้ หายมาหลายครั้งแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน 

 

โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะไปงัดเอาสิ่งของตามตู้เก็บของภายในตลาดในช่วงกลางคืน แล้วนำใส่รถเข็นน้ำลากต่อกับรถจักรยานยนต์ไปยังบ้านพักของตัวเอง  เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนทั้งสองคนก็ยอมรับว่า ได้ไปขโมยของที่ตลาดดังกล่าวทั้ง 2 แห่ง และยังได้ ขโมยเสื่อโฟมจากร้านค้า พร้อมทั้งได้ขโมยไส้กรอกที่ร้านลาบบ้านลำภู อีกด้วยและเมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นที่บ้านพักก็พบว่าสิ่งของที่ขโมยไปส่วนหนึ่งยังไม่ได้เอาไปขาย เหลืออยู่ภายในบ้าน  ซึ่ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้ สร้างความโล่งอกให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเป็นอย่างมาก ที่ก่อนหน้านั้นสิ่งของขายในตลาดสดมักจะหายเป็นประจำ 

โดย – สุรศักดิ์ เครือคำ