เปิด 10 อันดับ "พระสงฆ์" สายเซเลบสอนธรรมะขวัญใจชาวโซเชียล

ณ นาทีนี้ คงไม่มีประเด็นไหนร้อนแรงไปกว่าวงการผ้าเหลืองแล้ว ภายหลัง “พระยุคโซเชียล” อย่าง “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” แห่งวัดสร้อยทอง ย่านบางซื่อ ไลฟ์สดสอนธรรมะ ด้วยลีลาสนุกสนาน พร้อมโพสต์เฟซบุ๊กรัวๆ จนเป็นขวัญใจวัยรุ่นยุคนี้

ไม่นับรวมคำศัพท์ต่างๆ ที่ “พระมหาไพรวัลย์” นำมาใช้ เช่น คำว่า “พส.” ที่ไม่ได้ย่อมาจาก "เพื่อนสาว" หรือ "พี่สาว" แต่มีความหมายว่า "พระสงฆ์" หรือคำว่า “สภาพ” ที่มีความหมายตรงตัวของมันเอง แต่เมื่อพระนักเทศน์รูปนี้ นำมาพูดจนเป็นคำติดปาก กลับกลายเป็นคำพิเศษ  

ซึ่งหากใครติดตามเพจเฟซบุ๊กของ “พระมหาไพรวัลย์” จะพบว่า ในห้วงเวลาไม่กี่วัน ยอดคนกดไลค์-กดติดตาม เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากหลักแสนคน เป็นหลายแสน และทำ “ล้านแตก” ในท้ายที่สุด  

แต่นอกจาก “พระมหาไพรวัลย์” แล้ว ยังมีพระอีกหลายรูป ที่ใช้ “สื่อโซเชียล” เป็นแนวทางสอนธรรมะออนไลน์ ฉะนั้นเราจะขออนุญาตนมัสการ เปิดโปรไฟล์ 10 อันดับ “พระยุคโซเชียล” มาให้ดูกัน (ข้อมูลเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 ก.ย.)

เริ่มจากอันดับ 1 “พระเมธีวชิโรดม” หรือ “ว.วชิรเมธี” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ จ.เชียงราย ประธานมูลนิธิวิมุตตยาลัย และ ผอ.สถาบันวิมุตตยาลัย ซึ่งถือเป็นพระแถวหน้าของเมืองไทย โดยพบว่าเพจเฟซบุ๊ก “พระเมธีวชิโรดม-ว.วชิรเมธี” ที่สร้างมาตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.2552 มียอดคนกดไลก์เพจมากถึง 6,096,853 คน และกดติดตาม 6,170,496 คน

อันดับ 2 “พระครูสังฆรักษ์ ศักดา สุนฺทโร” หรือ “พระศักดา” แห่งวัดไร่ป่าธรรมภิมุก จ.ตราด พระนักเทศน์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยเพจเฟซบุ๊ก “พระศักดา สุนฺทโร” มีผู้ติดตามมากว่า 3,100,000 คน

อันดับ 3 “พระมหาไพรวัลย์” เพจเฟซบุ๊ก “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” ที่สร้างมาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.2562 มียอดคนกดไลก์เพจ 1,271,985 คน และกดติดตาม 1,793,828 คน โดยมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนช่องทางยูทูบ มีผู้ติดตามประมาณ 1.93 แสนคน

อันดับ 4 “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” แห่งวัดสร้อยทอง ที่เพิ่งจะไลฟ์สดคู่พระรุ่นน้องอย่าง “พระมหาไพรวัลย์” ที่มียอดคนเข้าดูมากกว่า 2 แสนคน

เพจเฟซบุ๊ก “fanpage พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” เริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.2554 มียอดคนกดไลก์ 722,709 คน และกดติดตาม 823,590 คน ส่วนยูทูบมีผู้ติดตาม 2.42 แสนคน

อันดับ 5 “พระพงศกร ปภัสสโร” หรือ “หลวงพี่กาโตะ” รักษาการเจ้าอาวาส วัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พระหนุ่มนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากสไตล์การใช้คำพูดคำสอน คล้ายบรรดา “ไลฟ์โค้ช” ก่อนจะไปแตะเรื่อง “ม็อบ 3 นิ้ว” จนถูกคณะทัวร์ชุดใหญ่ รุมโจมตีอย่างหนัก

โดยเพจเฟซบุ๊กของ “พงศกร จันทร์แก้ว (หนังแรมโบ้ ศ.สุวรรณศิลป์)” มีคนกดติดตาม 437,928 คน ส่วนช่องยูทูบ “หลวงพี่กาโตะ official” มีผู้ติดตาม 5.22 หมื่นคน

อันดับ 6 “พระเทพพัชรญาณมุนี” หรือ “พระอาจารย์ชยสาโร” แห่งสำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พระฝรั่ง ที่เข้ามาบวชในบวรพุทธศาสนากับ “หลวงปู่ชา” วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ตั้งแต่ปี 2523 และเพิ่งได้สัญชาติไทยเมื่อปีที่แล้ว

ด้วยลีลาการเทศน์นิ่มนวล ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก โดยเพจเฟซบุ๊ก “ธรรมะ โดย พระอาจารย์ชยสาโร/ Dhamma by Ajahn Jayasaro” ที่สร้างมาตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.2555 มียอดคนกดไลก์ 202,236 คน และคนกดติดตาม 227,640 คน

อันดับ 7 “พระครูใบฎีกาสุพจน์ สุวจโน” หรือ “หลวงพี่โดเรม่อน” แห่งวัดเขาน้อย จ.ระยอง พระสายแร็ปเปอร์ ที่โด่งดังมากจากการร้องเพลงสวดมนต์รูปแบบใหม่ เป็น “แนวแรป+แหล่” รวมถึงการทำสติกเกอร์ “สบง เรสซิ่งไทยแลนด์” จนสร้างสีสันให้วัยรุ่นที่หันหน้าเข้าวัดในยุคนี้

ซึ่งเพจเฟซบุ๊ก “สาธุสดชื่น หลวงพี่โดเรม่อน” สร้างมาตั้งแต่ 18 ก.ค.2560 มียอดคนกดไลก์ 81,619 คน และกดติดตาม 226,014 คน ส่วนช่องยูทูบ “สาธุสดชื่น” มีผู้ติดตาม 2.65 แสน คน

อันดับ 8  “พระราชธรรมนิเทศ” หรือ “พระพยอม กัลยาโณ” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ที่เพิ่งจะออกมาเอ่ยปากชม “2 พระมหา” ว่า มีรูปแบบการสอนธรรมะที่สนุกสนาน โดยเพจเฟซบุ๊ก “วัดสวนแก้ว (พระพยอม กลฺยาโณ)” สร้างมาตั้งแต่ 6 ก.ย.2554 มียอดคนกดไลก์ 24,952 คน และกดติดตาม 28,988 คน

อันดับ 9 “พระใบฎีกาปิยะ อัตถะยุตโค” หรือฉายา “พระทองแดงแหลงใต้” เจ้าอาวาสวัดบางเสียด ต.บางเตย จ.พังงา พระนักเทศน์สายฮาแห่งภาคใต้ ซึ่งเพจเฟซบุ๊ก “พระใบฎีกาปิยะ อย่าตกใจอย่างเดียว” มียอดผู้ติดตาม 16,000 คน

อันดับ 10 “พระครูปลัดสิทธิวัฒน์” หรือ “หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่มีชื่อปรากฎในสื่ออยู่เป็นประจำ โดยเพจเฟซบุ๊ก “คิดไม่ออกบอกหลวงพี่น้ำฝน” สร้างขึ้นตั้งแต่ 19 ม.ค.2559 มีคนกดไลก์ 13,475 คน และกดติดตาม 13,778 คน

ซึ่งทั้งหมดเป็นแค่ “พระนักเทศน์” บางส่วน ที่มีการสอดแทรกเนื้อหา “ธรรมะ” พร้อม “มุกโบ๊ะบ๊ะ” ในรูปแบบสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าถึง “หลักคำสอน” มากขึ้น แตกต่างจากยุคเข้าวัดสวดมนต์ในอดีต

ฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เมื่อมีเสียง “ยกยอชื่นชม” แบบเน้นตัวบุคคคลแล้ว แต่เหรียญอีกด้าน ก็มีเสียงคัดค้าน “ตำหนิติเตียน” เช่นกัน หลังจากนี้ต้องจับตาใกล้ชิดว่า คำสอนธรรมะรูปแบบใหม่ จะพาศาสนาพุทธมุ่งไปสู่จุดใด...??