เร่งสืบสวนไล่ล่าขบวนการค้ายาไอซ์ข้ามชาติ

24 สิงหาคม 2564 ที่สภ.กันตัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กันตัง ช่วยกันขนย้ายยาไอซ์ จำนวน 32 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 650 กิโลกรัม ออกจากที่เก็บภายในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาชั้น 1 เพื่อนำไปขึ้นรถตู้ เพื่อนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรัง และเตรียมส่งต่อไปตรวจพิสูจน์และหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยยาไอซ์ทั้งหมดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยึดคืนมาได้จากทะเลอันดามัน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ค้าได้ผูกทุ่นจมน้ำไว้ที่จุดนัดส่งของในทะเลอันดามัน บริเวณพื้นที่เกาะรอกห่าง จากชายฝั่งประมาณ 20 ไมล์ ระหว่างเกาะเหลาเหลียง - เกาะลิบง จ.ตรัง โดยมูลค่าในประเทศประมาณ 200 ล้าน ปลายทางประเทศที่สาม คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และออสเตรียเลีย มูลค่าประมาณ 600 - 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม สำหรับเป็นหลักฐานในติดตามเครือข่ายขบวนการค้าต่อไป

พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง บอกว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าตามเส้นทางการเคลื่อนย้ายการลำเลียงมาจากเรือหรือมาจากทางรถยนต์ในพื้นที่ที่พบของกลางแล้วต้องดูภาชนะที่บรรจุด้วย คาดว่าคดีนี้ไม่ยาก เพราะคดีทุกคดีส่วนใหญ่มันจะมีที่มาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องสืบจากที่มาให้ได้ว่ามาจากที่ไหนยังไง และของกลางที่ตรวจยึดได้เป็นยาไอซ์ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการลำเลียงในลักษณะเช่นนี้ แต่เป็นทางบก ทั้งนี้ หลักฐานเบื้องต้นที่มีคือ ภาชนะที่ใส่บรรจุ ลักษณะการขนเป็นการหนีด่านตรวจหรือจุดสกัดโควิดนี้เข้มข้น เพราะทางรถยนต์มีอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้าย ส่วนคนในพื้นที่จะมีเอี่ยวด้วยไหมนั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หลังจากนี้ก็จะมีการตรวจดูเส้นทางความเชื่อมโยงการส่งหรือนำพาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก็เชื่อว่าไปได้แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยจะทำการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย และต้องการความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสด้วย

ด้าน พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช รองผู้กำกับการสืบสวนปราบปราม กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ บอกว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานจากศูนย์พิสูจน์ เพื่อที่จะตรวจสอบว่ามันมีการเชื่อมโยงอย่างไร โดยดูจากยาเสพติดล็อตนี้ว่ามีการเกี่ยวโยงกับล็อตไหนบ้าง โดยก่อนหน้านี้พบที่สงขลาอีกล็อต คาดว่าที่ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางลงทะเลน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงการระบาดของ covid 19 เพราะเกิดการตั้งด่านทั่วไป ก็มีการหลีกด่านมาลงตามช่องทางธรรมชาติทางคลองหรือทะเล ประจวบกับพื้นที่ที่ไปประเทศที่ 3 น่านน้ำของจังหวัดสตูล-ตรัง เป็นพื้นที่สุดท้ายที่จะเข้าไปได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ที่สตูล ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน การข่าวก็ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนเส้นทางมา จ.กระบี่ ,จ.ตรัง ซึ่งเป็นไปตามคาด ว่าทะลักมาในพื้นที่จังหวัดตรัง ทั้งนี้ เชื่อว่ามาจากเส้นทางบนบกก่อน หากเส้นทางมาจากทะเลเลยระยะทางไกลมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งได้ทำการประสานงานระหว่างป.ป.ส. ซึ่งเชื่อว่า ป.ป.ส.น่าจะมีข้อมูลเยอะ ส่วนคนในพื้นที่จะมีเอี่ยวไหมนั้นคาดว่าอาจจะเป็นแค่คนรับจ้างแค่เรือรับจ้างเล็กๆ

ในส่วนของเบาะแสตอนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวนอยู่ ปลายทางที่ส่งคาดว่าน่าจะไปอินโดนีเซียและต่อไปออสเตรเลีย ในส่วนหลักฐานอาจจะได้บ้างแต่ในส่วนของลายนิ้วมือแฝงอาจจะค่อนข้างยากเ พราะแช่อยู่ในน้ำนาน แต่คาดว่าน่าจะมีหลักฐานหลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งรอการรายงานจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ต่อไป

ภาพ / ข่าว โดย :
คนิตา  สีตอง จ.ตรัง