นศ.ปริญญาโทปลิดชีพตัวเอง หลังเครียดยืมเงินให้เพื่อนแต่ต้องใช้หนี้แทน

ทางด้าน พ.ต.ท.ปุณณริศร์ ธรานันทเศรษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.ขอนแก่น หัวหน้าสภ.ย่อย มข.กล่าวถึงกรณีการฆ่าตัวตายของนายวรพล สมผล อายุ 25 ปี ว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564   ร.ต.อ.สิงหา หงส์อ่อน รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อย มข.รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนพบศพคนฆ่าตัวตายในห้องพัก ภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น

 
ในที่เกิดเหตุพบศพนายวรพล สมผล อายุ 25 ปี เสียชีวิตสภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ ไม่สวมกางเกง น้ำลายฟูมปาก ที่ข้อมือทั้งสองและลำคอ มีร่องรอบของมีคมบาด   ในห้องน้ำพบสายไฟและน้ำยาล้างห้องน้ำที่เพิ่งเปิดใช้ สภาพห้องสิ่งของกระจายเกลื่อน และพบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของผู้ตายเสียบปลั๊กชาร์ตไฟและเปิดใช้งานอยู่

จากการตรวจสอบการพบว่า นายวรพลโพสต์เฟสบุ๊คระบายข้อความว่า“เพราะเคยรัก เคยไว้ใจสุดท้ายก็โดน การที่น้องทำแบบนี้ทำให้คนที่เคยช่วยเหลือ ต้องลำบากไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ เพราะน้องเคยยืนในจุดที่ทุกคนเคยให้โอกาสและชื่นชม ในความสามารถของน้องมาพอสมควร แต่การเป็นหนี้ก็ต้องคืนต้องจ่ายไม่ใช่เงียบหาย แบบนี้ เก่งต้องเก่งทุกเรื่อง เก่งสร้างต้องเก่งแก้ไม่ใช่เก่งเงียบหนีหาย ทุกคนพร้อมรับฟังแต่สิ่งที่เธอทำตอนนี้คำว่าโอกาสนะตอนนี้ยังไม่มีให้ เพราะให้นึกถึงวันลำบากที่มีคนยื่นมือไปหาด้วยนะ ใช่ที่ทุกคนล้มและลุกได้ไม่อยากซ้ำเติมแต่อยากให้รู้จักความรับผิดชอบในสิ่งที่สร้างไว้ สิ่งดีๆที่เคยทำด้วยกันมันก็คือสิ่งดีๆและทรงจำดีๆ แต่สิ่งไม่ดีที่สร้างให้ก็ต้องตักต้องเตือน  97.8k ไม่มีใครสามารถมาหาใช้แทนเธอได้จริงๆนะ #หากเธอเกลียดคนที่ตักเตือนต่อว่าคุณ หลงระเริงในคำชม จุดจบก็เป็นแบบนี้ #ถ้ายังมีคำว่าจิตใจก็ควรกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น #คำว่าอำลาควรอำลาด้วยความคิดถึงไม่ใช่อำลาด้วยความผิดใจ #97.8k ต้องได้คืน #ถ้ารักคนที่ชมที่ไม่เคยเตือนน้องรักไปและขอความช่วยเหลือ”  

และโพสต์สุดท้ายในวันที่ 20 สิงหาคม 2564 ผู้เสียชีวิตได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ พร้อมโพสต์ข้อความว่า "บทเรียนของชีวิต และวิบากบาป ศักดิ์สิทธิ์"

พ.ต.ท.ปุณณริศร์ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้พบศพ ทราบว่า คนที่พักอยู่มในอพาร์ทเม้นท์เดียวกับคนตาย พบน้ำไหลออกจากห้องคนตาย จึงเรียก รปภ.ประจำอพาร์ทเม้นท์มาดู และเคาะประตูเรียกเจ้าของห้อง แต่ไม่มีคนเปิด จึงเปิดประตูเข้าไปภายในห้องและพบศพเจ้าของห้องตาย จึงรีบแจ้งตำรวจ    

“มูลเหตุจูงใจที่ทำให้เชื่อว่าก่อเหตุฆ่าตัวตายมาจาก เอาตัวไปผูกเป็นหนี้แทนคนอื่น  แล้วเมื่อทวงหนี้ เขากลับไม่มีความรับผิดชอบ  ทำให้ต้องมีภาระจ่ายดอกเบี้ยรายสัปดาห์ถึง 12,000บาท   ส่วนคู่กรณีที่ชื่อว่ามาดามมาย  พบว่า มีตัวตนจริง ขณะนี้หลบเจ้าหนี้ไปอยู่กรุงเทพมหานคร  เพราะว่ามีเจ้าหนี้ตามทวงหนี้หลายราย  สำหรับการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมในระหว่างนี้ ต้องรอให้ญาติจัดการฌาปนกิจให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะเชิญตัวมาให้ข้อมูล  ส่วนการเอาผิดมาดามมายนั้น  หากมีเจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ ว่ามีการหยิบยืมเงินและไม่ได้ใช้คืน  ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเชิญตัวมาดามมายมาสอบสวน  พร้อมทั้งเอาผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย”

พ.ต.ท.ปุณณริศร์  กล่าว

นายประสิทธิ์ สมผล อายุ 50 ปี บิดาผู้ตาย ได้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อรับศพของลูกชาย  กล่าวว่า ทราบเรื่องลูกชายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ  จึงรีบเดินทางมาจากกรุงเทพมหานครเพื่อรับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี  แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จึงไม่สามารถนำศพลูกชายกลับบ้านเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานีได้ จำเป็นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จที่ จ.ขอนแก่น

ส่วนกรณีการฆ่าตัวตายทราบจากเพื่อนของลูกชายว่า เกิดจากปัญหาเรื่องหนี้สิน ที่ลูกชายไปกู้เงินมาให้เพื่อนรุ่นน้อง  ที่ใช้ชื่อว่า มาดามมาย  แล้วเพื่อนรายดังกล่าวไม่ยอมใช้หนี้ จนเกิดปัญหาที่ลูกชายต้องมารับผิดชอบแทน เพราะลูกชายกู้ยืมเงินมาจำนวน 97,800 บาท ให้มาดามมาย แต่  ไม่รับผิดชอบและหนีหายไป ทำให้ลูกชายต้องจ่ายหนี้แทน เฉพาะดอกเบี้ยอาทิตย์ละ 12,000 บาท แต่ลูกชายมีรายได้ไม่เพียงพอ เพราะกำลังศึกษาระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เงินที่ใช้จ่ายก็ได้มาจากพ่อและป้า ส่งมาให้เท่านั้น  เมื่อแก้ไขปัญหาไม่ได้ลูกชายจึงคิดสั้นฆ่าตัวตายดังกล่าว 

“พ่อยังติดใจสาเหตุของการตัดสินใจฆ่าตัวตาย ว่ามีเรื่องอื่นๆอีกหรือไม่ เพราะจำนวนเงินไม่มากไม่น่าจะทำให้คิดสั้น   ครั้งสุดท้ายที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกันเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา ลูกโทรมาขอเงินกินข้าว 500 บาท แต่ก็ไม่ได้พูดคุยปัญหาให้ฟัง  ก็ส่งเงินไปให้   ลูกชายเป็นคนจิตใจดี   มีน้ำใจ ไม่น่าจะคิดสั้น เพราะถ้าลูกขอเงินหรือปรึกษาพ่อ พ่อก็จะช่วยเหลือ แต่ลูกชายไม่เคยเล่าปัญหาต่างๆให้ฟัง พ่อจึงไม่รู้เรื่อง  หลังจากเสร็จสิ้นพิธีจึงจะสืบหาสาเหตุที่แท้จริงว่ามีปัญหามากกว่านี้หรือไม่”นายประสิทธิ์  กล่าว