19 สิงหาคม 2564 นายรณกาจ ชินสำราญ คณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จากการติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เป็นวันที่ 2 ส่วนตัวขอเสนอให้สมาชิกตัดงบประมาณที่กำลังพิจารณากันอยู่ 10% หรือ เป็นจำนวน 3.1 แสนล้านบาท เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาโควิดและเยียวยาประชาชน
ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคไทยสร้างไทย เห็นว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ยังคงมีไขมันที่ต้องรีดอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นงบประมาณไม่มีความจำเป็นต่อประชาชน โดยตนขอเสนอวิธีการใช้งบประมาณ 3.1 แสนล้านบาท ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในยามวิกฤต
ด้าน ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัลเพื่อสร้างพลังของประชาชน กล่าวว่า
- จัดซื้อชุดตรวจโควิดแบบ Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 100 ล้านชุด วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชน ได้ตรวจฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- จัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA เพิ่มเติมอีก 80 ล้านโดส ให้ครบ 100 ล้านโดส วงเงิน 40,000 ล้านบาท
- เยียวยาประชาชน ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน จำนวน 5 ล้านครัวเรือน เป็นระยะเวลา 5 เดือน ในอัตราครัวเรือนละ 10,000 บาทต่อเดือน วงเงิน 250,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เพราะทั้ง 3 รายการนี้ คือ สิ่งจำเป็นเร่งด่วนสูงสุดที่ทุกฝ่ายควรจะเห็นตรงกันอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ทั้งในแง่การคัดกรอง ป้องกัน และรักษาเยียวยา เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการโควิดอย่างยั่งยืน และใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นเพียง 3 แสนล้านบาท
ขณะที่ นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ทั้ง 3 โครงการนี้ จะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 312,000 ล้านบาท ซึ่งหากตัดงบประมาณรายปี 2565 ลงได้ 10% ก็จะสามารถดำเนินการตามที่พรรคเสนอได้ และช่วยแก้ไขบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ให้กับประชาชนได้อย่างตรงจุด ซึ่งสอดคล้องกับพิมพ์เขียวสยบโควิดภายใน 60 วัน ที่พรรคเสนอก่อนหน้านี้
"ที่เราเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าหัวใจของการควบคุมการระบาด คือ ต้องเร่งตรวจเชิงรุก เร่งแยกรักษา และเร่งฉีดวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์กลายพันธุ์ การล็อกดาวน์ไปพร้อมๆ กับการเร่งทำตามพิมพ์เขียวของพรรคไทยสร้างไทย จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ภายใต้งบประมาณอันจำกัด ที่เราสามารถทำได้ จากการตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป 10% ตามข้อเสนอดังกล่าว จะช่วยทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้" นายเจตุบัญชา ระบุ