"ต่อหัวเสือ" แตกรังรุมต่อยเด็ก 3 ขวบสาหัส

19 สิงหาคม 2564 ภายหลังจากที่น.ส.ปนัดดา เพชรอาวุธ อายุ22ปี ชาวจ.กระบี่ ซึ่งมาทำงานในพื้นที่อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีนำหลักฐานการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เข้าขอความช่วยเหลือกับผู้ใหญ่บ้าน ม.9ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จากกรณีผู้รับเหมาทำถนนขับรถแบ๊คโฮ ทำรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่แตกร่วงลงพื้น ทำให้ฝูงตัวต่อแตกรังมาต่อยตัวเองและลูกชายวัย3ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องจ่ายค่ารักษาพยายามจำนวนมากเนื่องจากลูกชายต้องเจาะคอ ล้างไตวิงวอนให้ผู้รับเหมาช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลจนกว่าลูกชายจะหายเป็นปกติ

 

โดย น.ส.ปนัดดา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ17.40น. วันที่14ส.ค.64 บริเวณถนนสายนางสาวอำพร ม.9ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งผู้รับเหมากำลังเข้าดำเนินการโครงการปรับถนนของ อบต.คลองน้อย และได้ใช้รถแบ๊คโฮอาจทำให้พื้นสะเทือน รังต่อหัวเสือที่อยู่บนต้นกระท้อนจึงร่วงตกลงมา

ขณะนั้นตนขี่รถจักรยานยนต์พาลูกชายวัย 3 ขวบซ้อนท้ายผ่านมาจึงถูกตัวต่อจำนวนมากรุมต่อยจึงได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ขี่หนีเข้าไปขอความช่วยเหลือกับคนขับรถแบ๊คโฮคันดังกล่าว ที่ไม่ได้รับอันตรายเพราะอยู่ในห้องคนขับที่ปิดประตูมิดชิด ให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

 โดยตนเองถูกตัวต่อจำนวนมาก รุมต่อยทั่วตัว แพทย์ได้ฉีดยาแก้แพ้ให้2เข็ม และให้กลับรักษาตัวที่บ้าน แต่ก็ยังมีร่องรอยการบวมที่แก้มและมีรอยการถูกต่อยทั่วตัว ส่วนลูกชายมีอาการแพ้อย่างรุนแรง ตอนนี้ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน แพทย์ต้องทำการเจาะคอและต้องล้างไต แต่ยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมหรือเฝ้าอาการของลูกชายด้วยตัวเองได้เนื่องจากมาตรการ โควิด-19

หลังจากตนเองมีอาการดีขึ้นจึงได้รีบเดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไว้เมื่อวันที่15ส.ค.64เพื่อวิงวอนขอให้ผู้รับเหมาช่วยเยียวยารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงหลังเกิดเหตุผู้รับเหมาได้นำกระเช้าไปเยี่ยมแค่ครั้งเดียว
 

นายธวัชชัย สุทธินวล อายุ 22 ปี พ่อเด็ก กล่าวว่าตนเองอยากวิงวอนขอให้ผู้รับเหมาช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลลูกชายเพราะต้องฟอกไต ล้างไต ลำพังตนเองทำงานรับจ้างรายวันๆละ 300 -400 บาทไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาล

ด้านนายมานัส อินทร์เมือง ผู้ใหญ่บ้าน ม.9กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเรื่องได้เดินทางพร้อมผู้บาดเจ็บและกลุ่มญาติไปดูที่เกิดเหตุ พบว่ารังต่อหัวเสือยู่บนต้นกระท้อนสูงประมาณ7เมตร และยังมีเศษรังบางส่วนติดอยู่กับต้น

จากการสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นทราบว่า ทางผู้รับเหมาได้บอกกับผู้บาดเจ็บว่ารังต่อหัวเสือเป็นรังต่อที่เจ้าของสวนเลี้ยงไว้ แต่เมื่อตนเองสอบถามไปยังเจ้าของสวนซึ่งไม่ได้อยู่อาศัยที่สวนดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบว่ารังต่อที่ต้นกระท้อนเป็นรังต่อธรรมชาติไม่ได้เป็นรังต่อเลี้ยงแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ได้ประสานเพื่อหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

ล่าสุดนายสุมาตร อินทรมณี นายจ้างพ่อเด็ก กล่าวว่า เนื่องจากพ่อแม่เด็กเป็นคนดีขยัน มีความรับผิดชอบตั้งใจทำงานนิสัยดีและมีลูกชายเพียงคนเดียวกำลังน่ารักตนเองจึงได้ช่วยเหลือสำรองค่าใช้จ่ายให้ไปก่อนจำนวนหนึ่งแล้ว 9 พันกว่าบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นัดแนะผู้รับเหมากับพ่อแม่เด็กเพื่อเจรจาการช่วยเหลือเยียวยาในวันนี้ที่ อบต.คลองน้อยโดยมีนายธนายุทธ ไพศาลโรจน์ ปลัดอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เป็นประธาน.

ภาพ/ข่าว....สุวรรณี  บัณฑิศักดิ์ / สุราษฎร์ธานี