เศร้า! ญาตินำศพน้องน้ำค้าง บำเพ็ญกุศลที่ปักธงชัย

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี น.ส.ทิศากร พันธ์สำโรง หรือ น้องน้ำค้าง อายุ 29 ปี ชาว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช หลังจากนั้นผ่านไป 2 วันเกิดอาการผิดปกติปวดศีรษะอย่างรุนแรง ก่อนที่จะเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

โดยแพทย์ระบุว่า มีเลือดออกในโพรงสมอง และทำการผ่าตัดเอาเลือดออกจากโพรงสมอง หลังจากนั้นกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่รู้สึกตัว อยู่ในโรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน กระทั่งล่าสุด ได้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 21.51 น. ของคืนวันที่ 17 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (18 สิงหาคม 2564) ญาติได้นำศพของ น.ส.ทิศากร หรือ น้องน้ำค้าง มาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่วัดใหม่โพธิ์งาม ต.ดอน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมีญาติและเพื่อนบ้านรวมไปถึงเพื่อนๆ ของน้องค้าง ได้มางานศพเป็นจำนวนมาก หลังจากศพมาถึงที่ศาลาพักศพก็ได้มีการไหว้ขอขมา ก่อนที่จะนำศพ ใส่เข้าไปในโลงเย็น เพื่อรอประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ในช่วงค่ำวันนี้

โดยนางเมือง พันสำโรง อายุ 47 ปี แม่ของน้องน้ำค้าง บอกว่า ตนเองรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าลูกสาวจะจากไปเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านั้นก็เริ่มมีการตอบสนองดี และทำให้ทุกคนมีความหวังว่าน้องน้ำค้างจะได้ฟื้นตัวไปรักษาอยู่ที่บ้าน แต่ความหวังก็จบลงเมื่อน้องจากไปด้วยความสงบ ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากนี้ก็จะได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้ตามประเพณี โดยจะตั้งศพสวดพระอภิธรรม 1 คืน หลังจากนั้นก็จะประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่วัดโพธิ์งาม ต.ดอน อ.ปักธงชัย ต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 85 ม.2 ต.ดอน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของนางนับ ถาดจังหรีด ยายของน้องน้ำค้าง เปิดเผยว่า สำหรับ น.ส.ทิศากร พันธ์สำโรง หรือ น้องน้ำค้าง ได้เสียชีวิตลงเมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคม 2564 เวลา 21:51 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครราชสีมา หลังจากที่ได้นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 3 เดือน ซึ่งน้องมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงจนเป็นลมหมดสติ ที่ตลาดปักธงชัย จ.นครราชสีมา หลังจากได้รับวัคซีนเข็มแรก จนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปักธงชัย ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 และเจ้าหน้าที่ส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครราชสีมา อยู่เป็นเวลา 2 เดือนกับอีก 22 วัน จนอาการของน้องเริ่มมีการตอบสนอง มีการลืมตาขึ้นมาได้ ทางญาติก็ดีใจก็มีความหวังว่าน้องจะหาย

ตนเองได้ไปเยี่ยม ก็เห็นว่าน้องมีอาการดีขึ้น สามารถลืมตามองดูโลกได้ ตนก็มีความหวังที่จะนำลูกกลับมารักษาต่อที่บ้านเกิด โดยได้เตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับดูแลผู้ป่วยติดเตียงไว้ที่บ้านแล้ว หวังว่า หลังจากผ่าตัดปิดกะโหลกแล้ว น้องจะอาการดีขึ้น และจะพามารักษาต่อที่บ้าน แม้ว่าจะมาเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ก็หวังที่จะให้น้องน้ำค้างได้มาเจอกับลูกชายอยู่ที่บ้าน แต่หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดแล้วอาการน้องทรุดลงอย่างต่อเนื่อง น้องมีอาการติดเชื้อ จนถึงช่วงคืนของวันที่ 17 สิงหาคม 2554 น้องก็ได้จากไปด้วยอาการสงบ ตนเองก็พูดอะไรไม่ออกก็ได้แต่เสียใจ

ส่วนการช่วยเหลือนั้น ช่วงที่รักษาตัวน้องน้ำค้าง อยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ก็ได้มีหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครราชสีมา เข้ามามอบเงินช่วยเหลือให้ เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท และหน่วยงาน สป.สช.มอบเงินให้อีก 70,000 บาท นอกจากนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา กำลังเดินเรื่องขอเงินช่วยเหลือสงเคราะห์บุตร ซึ่งน้องน้ำค้างมีลูกชาย 1 คน ชื่อน้องไดมอนด์ อายุ 1 ปี 8 เดือน ที่ตนเองในฐานะทวดรับเลี้ยงดูอยู่

เนื่องจาก พ่อของเด็กได้เลิกทางกับน้องน้ำค้างไปนานแล้ว โดยเบื้องต้นทราบว่าจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตร เป็นเงินเดือนละ 2,000 บาท จนกว่าจะอายุครบ 18 ปี ซึ่งตนเองวางแผนไว้ว่าจะให้น้องไดมอนด์ได้เรียนหนังสือจนจบระดับปริญญาตรี และมีงานทำ มีอนาคตที่สดใจต่อไป

ภาพข่าวโดย : ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ