ตำรวจเรียกหนุ่มวัย 25 เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ม.112
เชียงใหม่ -หนุ่มวัย 25 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 หลังร่วมคาร์ม็อบเชียงใหม่ 1 ส.ค. เบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอสู้ต่อในชั้นศาล
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม 2564 นายธนกรณ์ ชัยอาภรณ์ อายุ 25 ปี พร้อมกับนายสุทธิเกียรติ ธรรมดุล ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางเข้ารับข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังตกเป็นผู้ต้องคดีมาตรา 112 หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ามีการกระทำผิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยรอบสภ.ช้างเผือก โดยมีคณะกรรมการสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาร่วมกันให้กำลังใจบริเวณหน้า สภ.ช้างเผือก พร้อมกับชูป้ายแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
โดยการรับทราบข้อกล่าวหาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง การดำเนินการจึงเสร็จสิ้น หลังจากนั้นนายธนกรณ์ พร้อมกับทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางกลับ ก่อนจะเดินทางกลับนายธนกรณ์ ชัยอาภรณ์ และทนายความ ได้มีกล่าวกับสื่อมวลชน
นายสุทธิเกียรติ ธรรมดุล ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ในวันนี้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียก เป็นคดีตามมาตรา 112 หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทางลูกความได้มีการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นสิ่งที่อยู่ในสำนวนคดี โดยในวันที่ 15 กันยายา 2564 นี้จะมีการนำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรมายื่นต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง
ด้านนายธนกรณ์ ชัยอาภรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นไม่มีความกังวลใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย โดยทั้งหมดทางทนายความจะเป็นผู้ดำเนินการให้ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ไม่สามารถกล่าวในขณะนี้ได้ เพราะทุกอย่างจะอยู่ในสำนวนคดี ต่อจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนของกฎหมาย และได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ทางตำรวจตั้งข้อหาไว้
พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณีผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ 1 สิงหาคม ที่บริเวณหน้าธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ได้มีการจัดขบวนคาร์ม็อบ หลังจากนั้นมีภาพปรากฏในโลกสังคมออนไลน์ว่ามีรถยนต์บางคัน ได้มีการนำผ้าพันคอจิตอาสาพระราชทาน มาเขียนคำที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะสม มาวางไว้หน้ารถ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการเก็บเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งสืบสวนจากทะเบียนรถ จนทราบถึงเจ้าของรถและผู้กระทำผิด จึงได้ทำการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา และทางผู้ต้องหาติดต่อขอเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง จึงมีการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย และปล่อยตัวผู้ต้องหาโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะผู้ต้องเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง ประกอบกับไม่มีพฤติการณ์หลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงไม่มีความจำเป็นต้องจับกุมตัวไว้
