นายกฯ ยัน หนุนเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียม แม้วิกฤตการเรียนต้องดำเนินต่อ

วันนี้ (16 ส.ค.64) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานแถลง"จุดยืนลดภาระทางการศึกษา" ผ่านระบบ Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ เข้าร่วม

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด -19 ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้เกิดรูปแบบการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่เชื่อมโยงกิจกรรม เศรษฐกิจ สังคมผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงกิจกรรมด้านการศึกษาด้วย โดยปัจจุบันการศึกษาในรูปแบบ New Normal จะต้องมีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบทางไกล ให้นักเรียนเรียนที่บ้าน ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยผ่านระบบออนไลน์ ส่งผลให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้ปกครองมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รัฐบาลเห็นความสำคัญของปัญหา และไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้มีมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนบุคลากรทางการศึกษา ทั้งมาตรการทางการเงิน อุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน และอินเทอร์เน็ตฟรี

เพื่อลดผลกระทบต่อผลการศึกษาของเยาวชนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้อยู่ในสถานการณ์วิกฤต ผู้เรียนจะต้องไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้ โดยรัฐบาลได้มีนโยบายสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมกับเริ่มมีการปรับรูปแบบการเรียนรู้ที่ไม่ได้มุ่งแต่เฉพาะองค์ความรู้ แต่สามารถนำองค์ความรู้เหล่านั้นไปประยุกต์กับการดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพให้ได้ในภายภาคหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อจะเป็นพื้นฐานสำคัญ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ขอให้ใช้โอกาสนี้ในการทำให้ครู เด็ก ผู้ปกครอง ได้มีโอกาสเรียนรู้ไปด้วยกัน ในลักษณะ Active Learning สร้างแรงจูงใจกระตุ้นให้เด็กนั้นมีแรงจูงใจในการเรียนรู้แม้ว่าจะอยู่ที่บ้าน ผู้ปกครองหลายท่านมีภาระ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเด็ก อยู่ที่ครู หรือที่วิธีการสอน ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ต้องดูแลครูให้มีการเตรียมความพร้อมรับการศึกษาในรูปแบบใหม่นี้ต่อไปในอนาคต นักเรียนก็จะมีการเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้นในโลกยุคหลังสถานการณ์โควิด สิ่งเหล่านี้คือ เมื่อเรียนทางวิชาการแล้วต้องเรียนรู้ในการปฏิบัติไปด้วยพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่รู้คุณค่า ว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ

นายกฯ กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุดต้องขอขอบคุณและชื่นชมทุกคนที่มีส่วนร่วมกันในการผลักดันรูปแบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพสูงสอดคล้องกับการดำเนินวิถีชีวิตใหม่ในสถานการณ์โควิด - 19 และช่วยการสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือลดภาระทางการเรียนให้กับผู้ปกครองนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาและขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ในสถานการณ์วิกฤตเราก็ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคต ต้องเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่วันนี้ เตรียมให้เด็กพร้อมตั้งแต่วันนี้ ให้เป็นเด็กที่เข้มแข็ง เป็นคนดีในสังคม มีจิตสาธารณะ เผื่อแผ่แบ่งปัน เคารพในสถาบันหลักของชาติ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ให้มีอนาคตและประเทศชาติจะมั่นคง ยั่งยืนต่อไป

พร้อมกับขอให้ทุกคนทุกท่านปลอดภัย สำเร็จในการทำงาน มีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็งและอวยพรให้การดำเนินการประสบผลความสำเร็จอย่างที่ทุกคนต้องการตามจำนงที่วางไว้ทุกประการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งเด็กและเยาวชนของไทยและผู้ปกครองซึ่งก็คงวาดหวังไว้ว่า ลูกหลานของเขาจะเจริญเติบโตได้อย่างไรในอนาคตอย่างมีความรู้มีความสามารถ นี่คือสังคมไทย เราต้องสร้างสังคมครอบครัวให้เข้มแข็ง ความผูกพันกันในครอบครัว เป็นวัฒนธรรมอัตลักษณ์ของความเป็นไทย เพื่อให้ทุกคนได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติได้ดำเนินต่อไป

สำหรับนโยบายลดภาระทางการศึกษา จากการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณเป็นพิเศษเพื่อสนับสนุนเยียวยาและลดผลกระทบทางการศึกษา ให้กับสถานศึกษา ครูผู้สอน นักเรียนและผู้ปกครอง โดยอนุมัติงบประมาณวงเงิน 22,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบอุดหนุนนักเรียนทุกสังกัด จำนวน 2,000 บาทต่อคนเป็นจำนวน 10 ล้านคน โดยเงินจะต้องกระจายไปยังนักเรียนภายใน 7 วันหลังจากที่เงินมายังกระทรวง

รวมไปถึงการลดช่องว่างการเรียนและความรู้ที่หายไป โดยให้สถานศึกษายืดหยุ่นการใช้เงินงบประมาณตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ทั้งค่าเรียนหนังสือเรียนอุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียนและค่ากิจกรรมพัฒนานักเรียน  นอกจากนี้ให้งบช่วยเหลือการสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาเพื่อให้ครูและบุคลากร ได้นำไปใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้มีความหลากหลายและค่าพาหนะดูแลนักเรียน รวมไปถึงค่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส และ กสทช. สนับสนุนค่าอินเตอร์เน็ตฟรีให้กับนักเรียนเป็นระยะเวลา 2 เดือนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564