เคสรถบรรทุกยังสาหัส!ตรวจพบเพิ่ม 3 รวมยอด 24 ราย

คืบหน้ากรณีคลัสเตอร์รถบรรทุกขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 (นครพนม-บ้านแพง) บ้านสำราญ ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม  ซึ่งในข้อบังคับตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด คนขับและเด็กประจำรถจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองมีผลเป็นลบ แสดงต่อเจ้าหน้าที่บริเวณด่านพรมแดน จึงสามารถนำรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ไปส่งสินค้าได้ตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งการตรวจคัดกรองค้นหาเชื้อโรคโควิด จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 วันผลถึงออก ทำให้ผู้ประกอบการบางรายเห็นแก่ตัว ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แล็บเฮ้าส์แห่งหนึ่งที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง ออกใบรับรองผลตรวจโควิดให้คนขับและเด็กประจำรถโดยไม่ผ่านการตรวจแต่อย่างใด จึงมีคนในกลุ่มรถบรรทุกที่มาจากพื้นที่เสี่ยงมีเชื้อโควิด แต่ไม่ได้ผ่านการตรวจคัดกรอง นำเชื้อมาแพร่ให้กับบุคคลในพื้นที่ จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ใกล้ตัวเมืองนครพนม มีผู้ติดเชื้อแล้ว 21 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว 

ล่าสุด วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ผลการตรวจคัดกรองผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงในกลุ่มรถบรรทุก ออกมาแล้วว่าพบผู้ป่วยยืนยันผลเพิ่มอีก 3 ราย รวมยอดสะสม 24 รายเป็นชาย 2 คนอาชีพขับรถบรรทุก และหญิง 1 คนเป็นเด็กประจำรถ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้นำตัวทั้ง 3 รายที่ถูกกักตัวอยู่ในสำนักงานดังกล่าว เข้าสู่กระบวนการรักษาแล้วที่ รพ.นครพนม  ทางด้านห้องเช่าที่แล็บเฮ้าส์มาเปิดบริการแก่สิงห์รถบรรทุกอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 บ้านห้อม ต.อาจสามารถ หลังมีส่วนพัวพันการแพร่ระบาดคลัสเตอร์นี้ก็ปิดสำนักงานหนี พร้อมปลดป้ายออกจากระเบียงห้องด้านหน้าไปแล้ว ขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ละแวกนั้นยังมีความตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยยืนยันผล 1 รายอยู่ในกลุ่มรถบรรทุกของบริษัทอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งบรรทุกปูนผงจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามมายังฝั่งไทย โดยผู้สื่อข่าวได้รับการชี้แจงจากผู้จัดการ ว่า ช่วงเกิดโรคโควิดระบาดทางบริษัทมีมาตรการเข้มในการป้องกันการแพร่เชื้อ ทุกสัปดาห์จะมีการตรวจค้นหาเชื้อในกลุ่มโชเฟอร์ที่ขับรถบรรทุก สำหรับผู้ป่วยรายนี้เพิ่งตรวจค้นหาเชื้อผ่านไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ผลตรวจเป็นลบ ต่อมาวันที่ 12 สิงหาคมขอลากลับบ้านที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม ทางบริษัทจึงบอกว่าถ้าจะกลับเข้าบริษัทต้องมีผลตรวจโควิดมาแสดงด้วย แต่คนขับรายนี้คิดว่าให้ตรวจโควิดก่อนเข้าบ้าน จึงเข้ารับการตรวจค้นหาเชื้อที่ รพ.นครพนม ในตอนเช้าของวันที่ 12 สิงหาคม และผลตรวจออกมาเป็นบวก ซึ่งจากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว และทราบเบื้องต้นว่าภรรยาก็ติดเชื้อโควิดและมีเชื้อมากกว่าสามี แต่ทางบริษัทไม่ฟันธงว่าลูกน้องที่ขับรถบรรทุกติดเชื้อจากภรรยา และขอยืนยันว่าบริษัทใส่ใจในความปลอดภัยของพนักงาน เจ้าหน้าที่ และสังคมส่วนรวมเสมอ

 
ส่วนกรณีมีชาวบ้านห้อม ต.อาจสามารถ ซึ่งอยู่ในช่วงการกักพื้นที่การเข้าออก ระหว่างวันที่ 11-17 สิงหาคม หลุดไปเข้าคิวฉีดวัคซีนที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา และอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ประกาศออกไมค์ไล่ให้กลับบ้าน จึงเกิดความไม่พอใจลงโพสต์ในกลุ่มไลน์ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่บริเวณจุดคัดกรองว่า มีประชาชน ต.อาจสามารถบางส่วนที่มาขอรับบริการ ซึ่งหากไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านที่มีการปิดก็ได้รับการฉีด  สำหรับหมู่บ้านที่มีการปิดบางส่วน  แต่เนื่องจากมีผู้มารับบริการจำนวนมาก และมีบางส่วนเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าคนทั่วไป  ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบในขณะนั้นได้ว่าปิดบ้านเลขที่ใดบ้าง และเพื่อความปลอดภัยของคนจำนวนมาก  จึงได้พูดคุยและขอให้มารับบริการในวันหลัง  หลังจากที่มีมาตรการความปลอดภัย สำหรับผู้รับบริการรายอื่นๆ  ซึ่งผู้รับบริการได้เข้าใจและยินดีจะมารับบริการในวันหลัง

 
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดของจังหวัดนครพนม วันนี้(16 สค.) มีผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 82 ราย รวมป่วยสะสม 3,862 ราย เสียชีวิตสะสม 15 ราย

โดย - พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล