รวบแม่ค้าผลิตแคปซูลกระชายขาว-ฟ้าทะลายโจรไม่ผ่านอย.

วันที่ 14 สิงหาคม 2564 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท.  ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าจับกุม นางชนาภา ม่วงยิ้ม อายุ 42 ปี ชาวจ.พิษณุโลก พร้อมของกลางผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจรผง บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใส จำนวน 10 ถุง , ผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจรอัดเม็ด บรรจุอยู่ภายในซองซิปหน้าใสหลังฟอยล์ จำนวน 14 ซอง รวมทั้งหมด 1,400 แคปซูล, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรกระชายขาวอัดเม็ด บรรจุอยู่ภายในซองซิปหน้าใสหลังฟอยล์ จำนวน 17 ซอง รวมทั้งหมด 1,700 แคปซูล

 ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สเปรย์กระชายขาว สกัดเข้มข้น ยี่ห้อ DEMEE MOUTH SPRAY จำนวน 120 ขวด , ผลิตภัณฑ์สมุนไพรกระชายขาวอัดเม็ด บรรจุอยู่ภายในแคปซูล จำนวน 1,882 แคปซูล , ผลิตภัณฑ์สมุนไพรกระชายขาวผง บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใส จำนวน ๒ ถุง , แคปซูลเปล่า 4,046 ชิ้น , สติ๊กเกอร์ ยี่ห้อ DEMEE MOUTH SPRAY จำนวน 1 แผ่น,สติ๊กเกอร์ ตราสัญลักษณ์ DMC DEMEE COSMETIC  ทั้งหมดอยู่ในห้องเตรียมบรรจุสินค้า ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ก่อนหน้านี้ตำรวจคณะทำงานป้องกันปราบปรามการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์โดยทุจริตและผิดกฎหมาย บช.สอท. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการโฆษณาจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต จาก อย. ผ่านสื่อออนไลน์ และมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงโดยผิดกฎหมาย ผ่านทางเว็บไซต์ชื่อ https://www.facebook.com/demeecosmetic/  จึงได้ทำการตรวจสอบ พบบัญชีเฟชบุ๊คชื่อ“รับผลิตครีม เครื่องสำอางค์ สร้างแบรนด์ One stop serviceจดอย.ที DMC” มีนางชนาภาเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวในการโฆษณาจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการสั่งซื้อสินค้าฟ้าทะลายโจร ชนิดแคปซูลและกระชายขาว ชนิดบรรจุขวด จากนางชนาภามาตรวจสอบ พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการแสดงฉลากที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายจึงได้เข้าตรวจสอบหจก.ดีมี อินเตอร์กรุ๊ป  พบมีการผลิตภายในสถานที่ดังกล่าวจริง จึงขออนุมัติหมายศาลจังหวัดพิษณุโลกเข้าตรวจค้น 

จากการสอบถามนางชนาภาแจ้งว่าไม่ขอให้การใดๆในชั้นจับกุม แต่จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้นางชนาภาได้เปิดเพจขายเครื่องสำอางมาก่อนที่จะเห็นว่าช่วงกระแสโควิดจึงได้ลักลอบผลิตยาแคปซูลกระชายขาวและฟ้าทะลายโจร โดยไม่ผ่านอย. ลักลอบขายผ่านอินเตอร์เน็ตคาดว่าน่าจะทำได้ไม่ถึงปี  นอกจากนี้ยังพบข้อมูลเชื่อมโยงกับกลุ่มแชร์แม่มณีซึ่งทางผู้ต้องหายืนยันว่าเรื่องดังกล่าวจบลงไปแล้ว

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ตาม ป.อาญา ม.14 (1), ผลิต เพื่อขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สมุนไพรฯ ม.17, ม.58, โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สมุนไพรฯ ม.70, ผลิต เพื่อขาย หรือรับจ้างผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางโดยไม่จัดให้มีฉลาก ตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอางฯ ม.22 วรรคหนึ่ง, ผลิต เพื่อขาย หรือรับจ้างผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางโดยก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอางฯ ม.22(1),โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณหรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ ม.47, ขายสินค้าที่ควบคุมฉลาก โดยไม่ฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ ม.52”เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนางชนาภา พร้อมของกลางไปที่สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป