svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ดร.เผ่าภูมิ แนะ รัฐทำ 3 ข้อ ก่อนล็อกดาวน์กลายเป็นน็อกดาวน์

14 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ดร.เผ่าภูมิ" รองเลขาฯเพื่อไทย จี้ รัฐทำ 3 ข้อ ก่อนล็อกดาวน์กลายเป็นน็อกดาวน์ ชี้ ควรอัดสภาพคล่อง 1.5 แสนล้านทุกเดือน อัด สินเชื่อฟื้นฟู พักหนี้ 5 แสนล้านใช้ไม่ถึงครึ่ง เอกชนกำลังล้มตาย ระบุ ภาคการส่งออกต้องประคอง แต่โรงงานต้องปิดจากโควิดทุกวัน ตรงนี้อันตราย

วันนี้ (14 ส.ค.64) ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอัดฉีดเงินลงสู่ระบบเพื่อชดเชยความเสียหายจากการล็อกดาวน์ ว่า

 

1. รัฐบาลจำเป็นต้องอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบอย่างน้อยเดือนละ 150,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของความเสียหายต่อเดือนที่เกิดขึ้นจากการล็อกดาวน์ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ ที่เหลือปล่อยให้เม็ดเงินหมุนเอง ซึ่งการอัดฉีดเงินต้องไปให้ถูกที่และถูกวัตถุประสงค์ "แรงงานในระบบ" พวกเขายังไม่ได้ตกงาน แต่ใกล้จะตกงาน รัฐจึงต้องอัดฉีดเงินผ่านนายจ้างผูกกับการจ้างงาน เพื่อรักษางานของพวกเขา ผ่านมาตรการคงการจ้างงาน สำหรับ "แรงงานนอกระบบ" กลุ่มนี้พวกเขาสูญเสียรายได้แล้ว มีปัญหาแล้ว จำเป็นต้องอัดฉีดตรงเพื่อเยียวยารายได้ที่หายไปและชดเชยกำลังซื้อ สองกลุ่มนี้แตกต่างกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอัดฉีดเงินในลักษณะที่ต่างกัน

2. มาตรการการเงิน ผ่านมา 1 ปี 4 เดือน Soft Loan สินเชื่อฟื้นฟู พักทรัพย์พักหนี้ วงเงินรวม 5 แสนล้านบาท แต่ใช้จริงราว 2.4 แสนล้าน ไม่ถึงครึ่ง ทำอะไรกันอยู่ เอกชนกำลังล้มตาย ตามด้วยแรงงานกำลังถูกปลด แต่การแก้ไขตรงนี้ช้าจนเหลือเชื่อ สภาพคล่องที่เหลืออีกกว่า 2.5 แสนล้านจำเป็นอย่างยิ่งต้องเร่งกระจายลงสู่ระบบภายใน 2-3 เดือนต่อจากนี้ให้ได้ มาตรการที่ล้มเหลวแบบพักทรัพย์พักหนี้ที่ถูกใช้เพียงราว 9,000 ล้านบาท จากวงเงิน 100,000 ล้านบาท ต้องรีบยกเลิกและปรับเป็นวงเงินสำหรับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐสำหรับการปล่อยกู้เอกชนที่เข้าไม่ถึง Soft Loan เดิมโดยเฉพาะ โดยรัฐต้องกล้ารับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และกำหนดเป็นนโยบายของภาครัฐในการเร่งระดมปล่อยสินเชื่อ

3. ภาคการส่งออกเหมือนไข่แดงที่ต้องประคองเอาไว้ เหมือนขอนไม้ชิ้นสุดท้ายที่ต้องเกาะเพื่อไม่ให้จมน้ำ แต่ตอนนี้ถูกกระทบหนักจากการติดเชื้อในโรงงานเป็นคลัสเตอร์ใหม่ทุกวัน จนการผลิตต้องหยุด โรงงานต้องปิด สาเหตุจากการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานในระบบอยู่ในระดับต่ำมาก ไม่ถึง 10% ตรงนี้อันตราย รัฐบาลต้องเพิ่ม "กลุ่มแรงงาน" เป็น "เป้าหมายเร่งด่วน" ในการได้รับวัคซีน เพราะติดเชื้อกันมาก ระบาดเร็วเพราะทำงานใกล้ชิดกัน และกระทบต่อการส่งออกที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง

 

"ทั้งหมดนี้ต้องรีบทำก่อนล็อกดาวน์จะกลายเป็นการน็อคดาวน์เศรษฐกิจประเทศ" ดร. เผ่าภูมิ กล่าว

logoline