ทายาทซัมซุงออกจากคุกแล้วภายใต้ทัณฑ์บน

อี แจ-ยอง วัย 53 ปี รองประธานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ออกจากเรือนจำในเมืองอึยวัง ห่างจากกรุงโซล 25 กม.เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีสื่อมวลชน กลุ่มผู้สนับสนุน และกลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันที่ด้านนอก

นายอีให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า "ผมขอโทษที่สร้างความกังวลอย่างมากให้กับประชาชน" และ "ผมตระหนักดีถึงความกังวล เสียงวิจารณ์ และความคาดหวังต่อตัวเขา"

เขาอยู่ในกลุ่มนักโทษ 810 คนที่ได้รับการพ้นโทษก่อนครบกำหนดภายใต้ทัณฑ์บนหรือการคุมประพฤติ เนื่องในวันประกาศอิสรภาพหรือวันชาติในวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งเป็นวันรำลึกการได้รับอิสรภาพจากจักรวรรดิญี่ปุ่น แต่มีเสียงวิจารณ์อย่างมากว่าเขาได้รับการปล่อยตัวเร็วเร็วเกินไป ขณะที่กระทรวงยุติธรรมให้เหตุผลการปล่อยตัวว่าได้คำนึงถึงเรื่องสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ความรู้สึกของสังคม และความประพฤติและทัศนคติของนักโทษ

นายอีรับโทษจำคุกตั้งแต่เขาได้รับคำตัดสินต้องโทษจำคุกนาน 2 ปีครึ่งจากศาลสูงโซลเมื่อวันที่ 18 ม.ค. โดยเป็นการพิจารณาคดีครั้งใหม่ในคดีติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ 

ก่อนหน้านี้เขาถูกตัดสินให้จำคุก 5 ปีในข้อหาคอร์รัปชั่นเมื่อปี 2560 จากการยักยอกทรัพย์ของบริษัทเพื่อนำไปติดสินบนประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ และชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิทของเธอ เพื่อให้รัฐบาลอนุญาตการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือซัมซุงเมื่อปี 2558

แต่เขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือน ก.พ. 2561 หลังรับโทษเพียง 11 เดือน เนื่องจากศาลสูงโซลลดโทษให้เหลือ 2 ปีครึ่งและพักโทษไว้ ต่อมาศาลสูงสุดส่งคดีกลับไปที่ศาลสูงในปี 2562 เพื่อให้พิจารณาคดีใหม่ ทำให้ต้องกลับเข้าเรือนจำอีกครั้งเมื่อเดือนม.ค.ปีนี้

แต่ภายใต้เงื่อนไขทัณท์ฑบน เขาจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทัณฑ์บนล่วงหน้า หากจะย้ายบ้านหรือไปต่างประเทศนานกว่าหนึ่งเดือน และภายใต้กฎหมายว่าด้วยการลงโทษในคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เขาจะยังไม่สามารถกลับเข้าทำงานที่ซัมซุงได้เป็นเวลา 5 ปีต่อจากนี้