เมื่อรถบัสวิ่งเข้ามาในสลัมของนิวเดลีในอินเดีย เด็ก ๆ ก็แห่กันมาพร้อมด้วยจานและชามที่ว่างเปล่า พวกเขารู้ดีว่าในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า ในรถคันนี้ ทั้งท้องและสมองของพวกเขาจะถูกเติมเต็ม
ในทุกวันธรรมดา รถบัส 4 คันจะมุ่งหน้าสู่สลัมต่าง ๆ ในนิวเดลีเพื่อให้ลูกหลานของบรรดาผู้อพยพ แรงงาน คนเก็บของเก่า และคนเก็บขยะ ได้มีโอกาสที่จะได้รับการศึกษาที่พวกเขาอาจจะไม่ได้รับ
รถบัสแต่ละคัน จะแวะไปตามสถานที่ต่าง ๆ 2 แห่งต่อวัน รถแต่ละคันถูกจัดให้เป็นห้องเรียนติดล้อ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รับบทเรียนพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาฮินดีสำหรับเด็กประมาณ 50 คนต่อครั้ง พร้อมกับเลี้ยงอาหารกลางวันด้วย นักเรียนรุ่นติดล้อพวกนี้มีอายุตั้งแต่ 3-13 ปี และบางบทเรียน ก็จะจัดขึ้นที่ด้านนอกรถ
นี่คือ "Hope Buses" หรือรถบัสแห่งความหวัง ของกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ TejasAsia มันเป็นหนึ่งในโครงการระดับรากหญ้าหลายโครงการในอินเดีย ที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างทางการศึกษาที่เกิดจากการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนา
เอ็บนา เอ็ดวิน ผู้ประสานงานโครงการของกลุ่มบอกว่า TejasAsia เปิดดำเนินการโรงเรียนเคลื่อนที่มา 2-3 ปีแล้ว แต่มันมีความสำคัญมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด
“ เราต้องการทำให้พวกเขาตระหนักว่า มันมีอะไรที่มากกว่าการที่ว่าคุณมาจากที่ไหน มันมีอนาคตที่ดีกว่า และพวกเขาก็สามารถฝันให้ใหญ่ได้”
โรงเรียนทั่วอินเดียได้ปิดประตูโรงเรียน และนักเรียนพากันย้ายมาสู่ระบบชั้นเรียนออนไลน์ท่ามกลางการล็อกดาวน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค COVID-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งตามรายงานของยูนิเซฟ มันส่งผลกระทบต่อเด็กอินเดียเกือบ 247 ล้านคน จากโรงเรียน 1.5 ล้านแห่ง
แม้แต่เด็กในสลัมที่ไปโรงเรียนปกติก่อนเกิดโรคระบาด ครอบครัวของพวกเขาก็มักจะยากจนเกินกว่าที่จะซื้อโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเรียนออนไลน์
สำหรับเด็กอื่น ๆ เวลา 2 ชั่วโมงบนโรงเรียนติดล้อ เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะได้อยู่ห่างไกลจากการใช้แรงงาน หรือการขุดคุ้ยไปตามหลุมฝังกลบขยะพร้อมกับครอบครัวของพวกเขา
มาร์โล ฟิลิป ผู้ก่อตั้ง TejasAsia บอกว่า "เป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้เด็ก ๆ เข้าใจถึงคุณค่าของการศึกษา ดังนั้นเราจะต้องทำงานกับครอบครัวก่อน เพื่อสร้างความตระหนักรู้มากมายในทุก ๆ ที่"
“มันต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการนำเอาโครงการของเราไปปักหลักในจุด ๆ หนึ่ง ”
มุมตัซ เบกุม ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกกระท่อมทางตอนเหนือของกรุงเดลีบอกว่าลูกสาว 2 คนของเธอดีขึ้นมากหลังจากที่พวกเขาเริ่มการเรียนในโรงเรียนรถบัสคันหนึ่ง
“เราต้องการให้ลูก ๆ ของเราได้เรียนรู้และเติบโต”