กัมพูชา-ลาว ประกาศคุมเข้มแรงงานที่เดินทางกลับจากไทย

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ให้คณะอนุกรรมการจัดการชายแดนของกัมพูชา ทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัดและเทศบาล จัดตั้งศูนย์กักตัวกับให้การรักษาพยาบาลแรงงานชาวกัมพูชาหลายร้อยคน ที่เดินทางข้ามมาจากไทย และส่วนใหญ่ติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งคำสั่งล็อกดาวน์ 8 จังหวัด ประกอบด้วย เกาะกง โพธิสัตว์ พระตะบอง ไพลิน บันทายมีชัย อุดรมีชัย พระวิหาร และเสียมราฐ ที่เริ่มเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม โดยเปิดเฉพาะการขนส่งสินค้าและกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

แรงงานคนหนึ่งที่ติดอยู่ที่ด่านทางเข้าจังหวัดบันทาย มีชัย บอกว่า เขากับคนอื่นๆ อีก 400 คน ไม่ได้ถูกส่งไปที่ศูนย์กักตัว แต่อยู่ที่ค่ายทหารในกัมพูชา และทางการได้แจกแผ่นพลาสติกคนละแผ่น เพื่อใช้บังแดดบังฝนชั่วคราวจนกว่าจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน คนงานคนนี้ ยังบอกด้วยว่า การข้ามชายแดนมีเงื่อนไขที่ยุ่งยาก ต้องอาศัยทางลัดด้วยการเข้าป่า

ด้านเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ บอกว่า ไม่สามารถช่วยเหลือแรงงานที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ และเป็นความรับผิดชอบของนายจ้าง ในการจัดหาอาหารและที่พักให้เพียงพอแก่พวกเขา ข้อมูลของศูนย์สมาพันธ์แรงงานและสิทธิมนุษยชน (CENTRAL) ระบุว่า ชาวกัมพูชาราว 2 ล้านคน ได้เข้ามาใช้แรงงานในไทย รวมทั้งภาคการเกษตร, ก่อสร้าง, ประมง และภาคการผลิต

ส่วน สปป.ลาว ทางการแขวงสะหวันนะเขต กำลังจำกัดจำนวนแรงงานแรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามจากฝั่งไทยกลับเข้าประเทศ โดยอ้างเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19

และการขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการกักตัวคนเหล่านี้ โดยปัจจุบันมีแรงงานลาวที่ข้ามพรมแดนสะหวันนะเขตวันละราว 200-300 คน แต่ทางการอนุญาตให้ไม่เกินวันละ 150 คน ทำให้ทางการต้องขอร้องให้พวกเขาข้ามเข้าไปที่แขวงอื่นๆ บ้าง รวมทั้ง คำม่วน จำปาสัก และเวียงจันทน์ ซึ่งในช่วงการระบาดระลอกที่ 2 ใน สปป.ลาว พบว่า มีแรงงานเกือบ 4,000 คน ที่กลับจากไทยผ่านแขวงสะหวันนะเขต และในจำนวนนี้มีอยู่ราว 2,000 คน ติดเชื้อโควิด-19