svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

ปมวุ่นการแต่งตั้งโยกย้ายแวดวงตราชั่งไทย (1)

09 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การแต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษา และตำแหน่งอื่นๆ ในวงการตราชั่งไทย ปี 2564 หลายตำแหน่งส่อวุ่น ทุกสายตาจับจ้องไปที่นายประสิทธิ์ เจริญถาวรโภคา รองประธานศาลฎีกา ประธานคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ที่ประกาศลาออกกลางที่ประชุม อ.ก.ต. ต้องมีเหตุและที่มา

สืบเนื่องมาจาก การประชุมคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) 6 ส.ค. 2564 นายประสิทธิ์ เจริญถาวรโภคา รองประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ประกาศลาออกจาก อ.ก.ต.เมื่อเสียงข้างมากรับรองผู้พิพากษาบางคนที่กำลังถูกสอบสวน ให้ขึ้นเป็น หน.ฎีกา

 

เรื่องนี้ ตามรายงานข่าว "สำนักข่าวอิศรา" อ้างแหล่งข่าวในสำนักงานศาลยุติธรรม ว่าเมื่อปี 2559 มีบริษัทเอกชนรายใหญ่ ร้องเรียนต่อประธานศาลฎีกา โดยระบุตำแหน่งผู้ถูกร้องว่าเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคใต้ ใช้อำนาจหน้าที่บีบบังคับและจูงใจให้ข้าราชการในจังหวัดกระทำการและเป็นเครื่องมือในการก่อกวนความสงบสุขของนักธุรกิจ  

 

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ประธานศาลฎีกาในขณะ มีคำสั่งย้ายผู้พิพากษารายนี้ เข้ามาช่วยราชการที่ศาลอาญา ภายใน ​24​ ชั่วโมง 

 

ต่อมา "เนชั่นออนไลน์" ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่า นอกจากการร้องไปที่ศาลฎีกา ยังมีหนังสือร้องเรียนอีก 1 ฉบับ จากผู้ต้องการความยุติธรรมในสังคม ไม่ประสงค์ออกนาม ลงวันที่ 16 ส.ค.2561 ส่งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ 

 

3 เดือนต่อมา ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ศาลฎีกา มีหนังสือที่ ศย 100/176 ลงวันที่ 1 พ.ย.2561 ขอความอนุเคราะห์อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สืบสวนข้อมูลทางการเงิน และตรวจสอบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของบุคคลๆ หนึ่งที่ศาลฎีกา กำลังสอบสวนอยู่ 

 

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงสั่งให้รวมเรื่องดำเนินการ เพื่อสืบสวนตามมาตรา 23/1 วรรคสอง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 จากนั้น คณะพนักงานสืบสวนได้สืบสวนสรุปผลการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่งไปยังกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ศาลฎีกา และได้ขอยุติเรื่องสืบสวน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการตรวจสอบของศาลฎีกา

ปมวุ่นการแต่งตั้งโยกย้ายแวดวงตราชั่งไทย (1)

อีก 6 เดือนต่อมา ประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ศาลฎีกา ได้มีหนังสือที่ ศย 100/133 ลงวันที่ 23 เม.ย.2562 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอความอนุเคราะห์ให้สืบสวนข้อมูลทางการเงิน ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงิน การซื้อกองทุนรวม การครอบครองหรือถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์ ซึ่ง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในตอนนั้น อนุมัติทำการสืบสวนตามมาตรา 23/1 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2562

 

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากตั๋วแลกเงิน ที่บริษัท*************จำกัด ซื้อตั๋วแลกเงินเลขที่ XXX26XX ลงวันที่ 13 มี.ค.2561 จำนวน 200 ล้านบาท สั่งจ่ายชื่อ นาย "ก" โดยระบุ A/C PAYEE ONLY ดังนั้น ตั๋วแลกเงินฉบับดังกล่าวนี้ต้องนำเข้าบัญชีเท่านั้น

 

ตั๋วแลกเงินเลขที่  XXX26XX จำนวน 200 ล้านบาท นาย "ก" ได้ไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาภูเก็ต เลขที่บัญชี XXX-๔-XXX๖๒-X วันที่ 23 มี.ค. 2561 เพื่อนำตั๋วแลกเงินฝากเข้าบัญชี และในวันเดียวกันได้ถอนโอนเงินทั้ง 200 ล้านบาท ไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัษฎา เลขที่บัญชี XXX-๐-XXX๓๔-X ของ นาย"ก"

วันเดียวกัน คือ 23 มี.ค.2561 นาย"ก" ได้กระจายเงิน 200 ล้านบาทออกไปเกือบหมดทั้งจำนวน โดยถอนเป็นเงินสดและถอนโอน 199,780,000 บาท คงเหลือเงิน 220,000 บาท ไว้ในบัญชี 

 

ส่วนเงินจำนวน 199,780,000 บาท มีการกระจายไปในรูปการโอนไปยังบุคคลกลุ่มต่างๆ และซื้อรถยนต์ 

 

(ต่อตอน 2) 

 

logoline