อังกฤษส่งคอมมานโดไปเยเมน เตรียมจัดการคนถล่มเรือน้ำมันอิสราเอล

เดลี่ย์ เอ็กซ์เพรส หนังสือพิมพ์อังกฤษว่ารายงานว่าทีมของ " หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ " หรือ SAS ของอังกฤษ เดินทางถึงเยเมนแล้ว เพื่อไล่ล่าผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ารับผิดชอบต่อการใช้โดรนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันอิสราเอลนอกชายฝั่งโอมานเมื่อเร็ว ๆ นี้  

ทีมของหน่วยปฏิบัติการพิเศษจำนวน 40 นาย มาถึงทางตะวันออกของเยเมนเมื่อวันเสาร์ ทีมซึ่งควรจะมีหน่วยสงครามอิเล็กทรอนิกส์ร่วมทีมมาด้วย เพื่อให้สามารถดักจับสัญญาณการสื่อสาร ได้รับมอบหมายให้ไล่ล่ากลุ่มที่คาดว่าจะอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน " เมอร์เซอร์ สตรีท " เมื่อปลายเดือนมิถุนายน

ทหารเหล่านี้จะต้องพึ่งพาผู้ดูแลในท้องถิ่น ซึ่งได้รับเงินตอบแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ โดยลอนดอนเชื่ออย่างชัดเจนว่ากลุ่มกบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เป็นผู้ดำเนินการโจมตี โดยได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน

แหล่งข่าวทางทหารของอังกฤษบอกว่า

“ทุกอย่างชี้ไปที่โดรนที่ถูกปล่อยจากเยเมน ความกังวลในตอนนี้คือ โดรนที่บินได้ในระยะไกล จะให้ความสามารถใหม่ ๆ แก่พวกเขา”

ข้อมูลข่าวกรองสหรัฐและอิสราเอลอ้างว่า โดรนที่สังหารผู้คนไป 2 รายบนเรือบรรทุกน้ำมัน ถูกปล่อยมาจากเยเมนตะวันออก มันถูกนำทางไปยังเรือลำดังกล่าวผ่านระบบ GPS  ในขณะที่มนุษย์เข้าควบคุมมันในช่วงกิโลเมตรสุดท้าย

ทีม SAS ได้ทำงานร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาซึ่งอยู่ในเยเมนแล้ว และเสริมว่า พวกอเมริกันก็ได้ฝึกอบรมหน่วยคอมมานโดชั้นยอดของซาอุดีอาระเบียที่นั่นด้วย

หนังสือพิมพ์ไม่ได้ระบุแหล่งที่มา และเจ้าหน้าที่อังกฤษก็ไม่ได้ยืนยันการดำเนินการดังกล่าวซึ่งคาดว่ายังคงดำเนินการอยู่ ลอนดอน วอชิงตัน และเทลอาวีฟกล่าวหาเตหะรานว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันอิสราเอล ซึ่งคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอังกฤษ และกัปตันเรือชาวโรมาเนีย

อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด และให้คำมั่นว่าจะตอบโต้อย่าง “รุนแรง” ต่อภัยคุกคามใด ๆ เนื่องจากอังกฤษและสหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขากำลังดำเนินการเพื่อ “ตอบโต้” ต่อเตหะราน แต่ก็ไม่ได้ประกาศขั้นตอนเฉพาะใด ๆ อย่างเป็นทางการ

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลบอกเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าประเทศของเขา ก็พร้อมที่จะโจมตีอิหร่าน

แต่การปรากฏตัวของทหารอังกฤษในดินแดนเยเมนนั้นแทบจะไม่มีอะไรใหม่ เพราะเคยมีรายงานเกี่ยวกับหน่วยคอมมานโดของอังกฤษและหน่วยอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบในสงครามกลางเมืองเยเมนที่ยืดเยื้อ

ในเยเมน กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย กำลังสนับสนุนรัฐบาลเยเมนของประธานาธิบดีมันซูร์ ฮาดี เพื่อต่อต้านกลุ่มกบฏชีอะห์ฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน แต่กลุ่มพันธมิตรก็ถูกกล่าวหาหลายครั้งว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนในเยเมน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการทิ้งระเบิดตามอำเภอใจที่มักคร่าชีวิตพลเรือน

แต่กองทหารอังกฤษไม่ได้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็อย่างเป็นทางการ ลอนดอนระบุหลายครั้งว่าไม่ใช่  "ฝ่ายที่ร่วมทำสงคราม" แม้ว่าอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของอังกฤษจะจัดหาอาวุธและกระสุนให้ซาอุดิอาระเบียอย่างแข็งขัน โดยในช่วง 5 ปีของสงครามเยเมนระหว่างปี 2558 ถึง 2563 BAE Systems ผู้ผลิตอาวุธชั้นนำของอังกฤษรายงานว่าขายอาวุธ และบริการอื่น ๆ มูลค่า 1 หมื่น 5 พันล้านปอนด์ หรือ 6 แสน 8 หมื่นล้านบาทให้กับกองทัพซาอุดิอาระเบีย

เมื่อเดือนกรกฎาคม มีการเปิดเผยว่าลอนดอนยังคงรักษากองกำลังลับอยู่ในเยเมน กองทหารเหล่านี้ ให้การฝึกฝนกับกองกำลังซาอุดิอาระเบียอย่างน้อยตั้งแต่ต้นปี 2564 พวกเขาประจำการอยู่ที่สนามบินอัล-เกย์ดาห์ ในอัล-มาห์ราห์ เขตการปกครองทางตะวันออกไกลของเยเมน

ก่อนหน้านี้ กลุ่ม Human Rights Watch ก็บอกว่าพื้นที่นี้เป็นสถานที่สำหรับการกักขังอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งผู้คนจะถูกทรมาน ขณะที่รายงานอีกฉบับระบุว่ามีทหารอังกฤษประมาณ 30 นายประจำการอยู่ที่นั่น

ทีมป้องกันภัยทางอากาศของอังกฤษ ก็ถูกส่งไปยังซาอุดิอาระเบีย เพื่อดูแลระบบเรดาร์ที่ทำหน้าที่ติดตามโดรนและจรวดของกบฏฮูตีอย่างน้อย ก็ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563