ลดกระหน่ำประมูลรังนกพัทลุง 360 ล้าน ประกาศครั้งที่ 9
คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ประกาศครั้งที่ 9 ราคาประมูลขั้นต่ำ 360 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางปี 2559 อยู่ที่ 405 ล้านบาท หวังสร้างแรงจูงใจเอกชนเข้าร่วมเสนอราคา หลังจาก 8 ครั้งที่ผ่านมายังไม่มีใครสนใจ
6 สิงหาคม 2564 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เปิดเผย ”ผู้สื่อข่าว” ว่าเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุงและคณะกรรมการกำหนดราคากลางที่มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธานฯ
ได้ประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดราคากลางประมูลสัมปาทานรังนกจังหวัดพัทลุง หลังจากมีการประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมครั้งที่ 8 ที่ราคา 405 ล้านบาท ปรากฎว่ายังไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล จึงต้องประกาศเป็นครั้งที่ 9
ที่ประชุมสรุปราคาขั้นต่ำที่ประกาศที่ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอราคาไม่ต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่ 360 ล้านบาท ส่วนเงื่อนไขอื่นก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เช่น หลักประกันซอง 10 ล้านบาท
และวางเงินมัดจำในวันลงนามในสัญญา 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาที่เสนอและระยะเวลาสัมปาทาน 5 ปี สามารถจัดเก็บรังนกได้ทั้งหมดจำนวน 15 ครั้ง
“ระยะเวลาในการประกาศตั้งแต่วันที่ 5-11 สิงหาคม 2564 และวันที่ 13 กำหนดยื่นซองเสนอราคาเวลา 09.00-11.00น.ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง”
นายกู้เกียรติ กล่าวและว่า ในขณะเดียวกันก็ยังส่งใบเสนอนราคาไปให้กับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรังนกทั่วประเทศจำนวน 15-16 บริษัทเหมือนเดิม
สำหรับที่กำหนดราคาขั้นต่ำหรือราคากลางลดลงมาเหลือ 360 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางเมื่อครั้งการประมูลเมื่อ 5ที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 405 ล้านบาทนั้นมาจากหลายปัจจัย
ประการแรกเรามีค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปทำการดูแลเกาะรังนกปัจจุบันในช่วงที่ยังไม่มีผู้สัมปาทานรายใหม่วันละ 57,000 บาท หรือ 20 วัน 1 ล้านบาท
ประการที่สองพบว่าขณะนี้มีคนแอบเข้าไปขโมยรังนกเกิดขึ้นแล้วในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ก็ตาม ซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอยู่ตอนนี้ ฉะนั้นแม้จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าแต่ก็ยังมีคนแอบเข้าไปขโมยได้อยู่
และประการสุดท้ายก็คือจากเปิดเประมูลจากจำนวน 8 ครั้ง โดยราคาครั้งสุดท้ายที่ 405 ล้านบาทก็ยังไม่มีผู้สนใจ คณะกรรมการฯจึงคิดว่าราคาที่เหมาะสมน่าจะไม่น้อยกว่า 360 ล้านบาท
“เมื่อปี 2559 ราคาราคากลางอยู่ที่ 405 ล้านบาท ตกแล้วปีประมาณ 81 ล้านบาท ครั้งนี้เราคิดว่าเราน่าจะรับได้ที่ราคา 72 ล้านบาทต่อปีคูณด้วย 5 ปีก็คือ ราคา 360 ล้านบาท”
ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ยังกล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก3ปัจจัยหลักๆที่ทำให้ต้องเร่งการประมูลให้เกิดขึ้นโดยเร็ว นั่นก็คือเรื่องแศรษฐกิจ เรื่องโควิด-19 และค่าใช้จ่ายที่จะต้องเฝ้ารังนกอย่างต่อเนื่องที่มีแต่จำเพิ่มขึ้นๆ ตามลำดับ
ข่าว...สมชาย สามารถ