svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศึกงบกลางยังไม่จบ "เพื่อไทย"โต้"ก้าวไกล"ไม่ได้โยกให้"ประยุทธ์"ซื้ออาวุธ

05 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยังไม่จบง่าย ๆ สำหรับประเด็นการโอนงบประมาณ ปี 65 ที่ถูกตัดจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทไปเข้างบกลาง หลังจาก"พรรคก้าวไกล"และ"คณะก้าวหน้า"ได้เปิดคลับเฮาส์ถล่มการทำงานของ"พรรคเพื่อไทย"ที่ตัดสินใจลงมติในเรื่องนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาฝั่งเพื่อไทยก็ขอเข้าคลับเฮาส์โต้กลับบ้าง โดยเฉพาะประเด็นที่ประชาชนตั้งคำถามถึงการตัดสินของกมธ.ในส่วนของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นการ 'ตีเช็คเปล่าให้ประยุทธ์' หรือไม่ ทีมพรรคเพื่อไทยจัดสปีคเกอร์มามากมาย อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ,นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ รองประธาน กมธ. งบประมาณ 2565 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธาน กมธ. งบประมาณ 2565 และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน โดยนอกจากชี้แจงผ่านคลับเฮาส์ยังเชี่ยมสัญญาณผ่านเพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย ให้ได้ติดตามด้วย



 

เริ่มประเด็นแรกด้วยการชี้แจงเหตุผลที่เพื่อไทยได้ตัดสินใจลงมติเห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่โดยเพื่อไทยย้ำจุดยืนเดิมที่เคยชี้แจงไปแล้วคือความตั้งใจในการนำงบประมาณไปแก้ปัญหาโควิด ซึ่งเพื่อไทยมองว่าเป็นความสำคัญอันดับแรก ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตรวจสอบไม่ปล่อยให้ใช้ตามอำเภอใจอย่างแน่นอน พร้อมระบุด้วยว่าหากเพื่อไทยไม่เห็นด้วย ประชาชนก็จะมองว่าเพื่อไทยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประชาชนในเรื่องนี้

ส่วนประเด็นที่มีการมองว่า”เพื่อไทย”ตีเช็คเปล่าให้”พล.อ.ประยุทธ์”?

หมอชลน่าน อธิบายว่า หมวดงบกลางมีวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาโควิดเท่านั้น โดยมีสองเรื่องระบุเอาไว้ ได้แก่การแก้ไขและเยียวยา ย้ำว่า

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการตีเช็คเปล่า เพราะการตีเช็คเปล่าต้องตรวจสอบไม่ได้ แต่นี่เราตรวจสอบได้ทุกเม็ด มีกระบวนการติดตามตรวจสอบทุกอย่าง”  "ที่ผ่านมาอาจไม่เคยเอางบที่แปรญัตติปรับลดไปไว้ที่งบกลาง เพราะในสถานการณ์ปกติจะมีงบประมาณสำรองจ่ายฉุกเฉินในแต่ละปีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องโยกงบประมาณส่วนนี้ไปไว้ที่งบกลาง แต่ในปี 2565 สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนไป เกิดวิกฤตโควิด แต่หน่วยราชการต่างๆ ไม่ได้มีงบประมาณสำหรับการแก้ไขปัญหาโควิด กมธ.งบประมาณ ก็ไปปรับงบประมาณมาไว้สำหรับแก้ไขปัญหาโควิด ซึ่งประเด็นนี้สามารถดูบันทึกการประชุมสภาได้"

ถึงช่วงที่เปิดให้ประชาชนได้เข้ามาถามคำถามซึ่งก็มีทั้งกองเชียร์พรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนและให้กำลังใจและประชาชนที่ให้ความสนใจในประเด็นนี้โดยคำถามส่วนใหญ่ยังคงถามว่าพรรคเพื่อไทยมั่นใจได้อย่างไรว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะนำเงินงบประมาณไปใช้ตามจุดประสงค์อย่างแท้จริง และยังกังวลว่าจะมีการนำงบประมาณดังกล่าวไปซื้ออุปกรณ์ที่นำมาใช้ปราบปรามผู้ชุมนุม ประเด็นนี้เพื่อไทยยืนยันว่า งบประมาณดังกล่าวถูกระบุไว้เพื่อแก้ปัญหาโควิดโดยเฉพาะ และพรรคได้มีการจับตาตรวจสอบเรื่องนี้อย่าแล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ขอให้ประชาชนร่วมให้ประชาชนร่วมจับตาดูการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามบรรยากาศในคลับเฮาส์เมื่อคืนเห็นได้ชัดว่าพรรคเพื่อไทยมีท่าทีไม่ปะทะหรือหลีกเลี่ยงการพาดพิงพรรคก้าวไกลแบบตรง ๆ แม้จะมีพูดเฉียดไปเฉียดมาเล็กน้อยๆถึงการทำงานอย่าเล่นการเมืองบนความเดือดร้อนของประชาชนและย้ำว่าเป็นการสร้างวาทกรรมเรื่องตีเช็คเปล่าบ้าง แต่ก็ได้ออกตัวเตือนแฟนคลับทั้งสองพรรคขออย่าเอาชนะกันเอง พร้อมย้ำยุดยืนขอให้ฝ่ายค้านสามัคคีเพื่อตรวจสอบรัฐาลและเตรียมอภิปราย อย่ามารบกันเอง เช่นนายภูมิธรรมที่ระบุว่า

 

“ประเด็นที่เป็นปัญหาคือส่วนที่เป็นผู้สนับสนุนในแต่ละฝ่ายใช้วาทะกรรมาถล่มกัน  ในแง่ของพรรคเพื่อไทยพยายามหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง เพราะเราคิดเพราะเราคิดว่ามีศรัตรูที่จะต้องดำเนินการคือความความล้มเหลวของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการ  เราไม่อยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันมานั่งถล่มกันให้ผู้ร้ายกลายเป็นคนที่หลุดลอยไปเฉย ๆ “ 

 

“ไม่ต้องกลัวจะจะไปฮั้วกับนายกรัฐมนตรีคนนี้ เพราะเป็นคู่ต่อสู้ที่เรามองว่าบริหารผิดพลาดและเรากำลังจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ”  ขณะที่นายชูศักดิ์ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ ว่า “เรามาถกเถียงเรื่องนี้มีดีหรือ เอาเวลามาถกเถียงว่าจะล้มคุณประยุทธ์ ยังไงไม่ดีกว่าหรือ”

นับได้ว่าแม้จะมีรอยร้าวจากการฟาดฟันและยังไม่ถึงขั้นแตกหักสำหรับทั้งสองพรรคฝ่ายค้าน งานนี้พรรคเพื่อไทยเลยขอยกธงขอพักก่อนเพราะยังมีศึกใหญ่คือการอภิปรายรัฐบาลรออยู่ข้างหน้า หลังจากนั้นจะยังไงต่อไปคงมีให้เห็นกันอีกยาว ๆ

 

 

logoline