เมื่อทะเลสาบใหญ่อันดับ 2 ของโบลิเวียหายไป

น้ำในทะเลสาบ " ปูโป " ของโบลิเวีย ที่เคยถูกคลื่นซัดเข้าหาชายฝั่งของเกาะอิสลา เด ปันซา ตอนนี้คนในท้องถิ่นสามารถเดินข้ามพื้นดินที่แตกระแหงของก้นทะเลสาบ เพื่อไปยังชุมชนพื้นเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกันได้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกแยกจากกันโดยทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ทะเลสาบที่ครั้งหนึ่งเคยแผ่ขยายไปทั่วบริเวณที่ราบที่เต็มไปด้วยแสงแดดของโบลิเวีย ได้ตกเป็นเหยื่อของการผันน้ำเพื่อความต้องการด้านการชลประทานในภูมิภาคมานานหลายทศวรรษ แต่สภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฟื้นตัว มีความไม่น่าเป็นไปได้ที่เพิ่มมากขึ้น

ทะเลสาบปูโปแห้งไปในปี 2558 ตามวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวไอย์มารา เชื่อว่าทะเล สาบจะมีน้ำมาเติมเต็มทุก ๆ 50 ปี ซึ่งก็คือในปี 25 69 และคนในท้องถิ่นก็ยืนกรานว่าความเชื่อนี้จะบังเกิดผล

คริสตินา มามานิ ชาวบ้านคนหนึ่งย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอย่างการเดินทางข้ามทะเลสาบกับลูก ๆ ด้วยเรือบด
 

ส่วนวาเลริโอ โรฮาส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยหาเลี้ยงชีพด้วยการจับปลาในทะเลสาบ บอกว่าผู้อาวุโสในหมู่บ้านเล่าว่า จะมีการเติมน้ำให้กับทะเลสาบทุก ๆ 50 ปี แต่เมื่อมองออกไปที่พื้นเกลือแห้ง ๆ ที่หลงเหลืออยู่ เขาก็มีความสงสัย

เขาบอกว่า

" ทะเลสาบจะกลับมาเต็มอีกครั้งหรือ ? ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและมลภาวะ สำหรับผมแล้ว ดูเหมือนว่าสภาพอากาศจะคาดเดาไม่ได้อีกต่อไป ในภาษาไอย์มาราของพวกเรา มีการพูดกันว่า...แม่ธรณีของเราเหนื่อยล้า "

นักวิทยาศาสตร์เองก็เริ่มสงสัยเช่นกัน อย่าง ฮอร์เก้ โมลิน่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย อูนิเวรซิดาด เด ซาน อันเดรส บอกว่าเทือกเขาแอนดีสมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางวัน ซึ่งหมายความว่าการระเหยเพิ่มขึ้น ทำให้ยากต่อทะเลสาบน้ำตื้น รวมถึงพืชและสัตว์ต่างๆ ที่จะอยู่รอด

" ทะเลสาบกำลังแห้งแล้งมากขึ้นเรื่อย ๆ ทะเลสาบที่เป็นปลายทางจะกลายเป็นที่ราบเกลือเมื่อวันเวลาผ่านไป มันไม่ใช่ทะเลสาบที่ใช้งานได้อีกต่อไป ทะเลสาบที่แห้งบ่อยเกินไปจะไม่เอื้อต่อสัตว์ พืช และความหลากหลายทางชีวภาพอีกต่อไป " 

และปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศนี้ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาสำหรับทะเลสาบเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาเรื่องของอัตลักษณ์ด้วย ปูโปเป็นแหล่งกำเนิดของชุมชนพื้นเมืองโบลิเวียหลายแห่งที่ต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมของสเปนเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ตอนนี้มีแนวโน้มที่จะเจอกับภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ