จากกรณีมิจฉาชีพสวมรอยฉกพระเครื่องราคาแพงกว่า 50 องค์ รวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท ที่นายวรากร ส้มเตี้ย อายุ 35 ปี เซียนพระชื่อดังของ จ.สมุทรสงคราม นำใส่กล่อง 28 กล่องฝากส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์กับบริษัทรับส่งสินค้า“เคอรี่” ภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในอ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โดยมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าของสินค้ามาขอยกเลิกการส่งและขอรับพัสดุคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดดูกล้องวงจรปิด จึงทราบว่าคนขับรถแท็กซี่เป็นผู้มาขอรับพัสดุคืนไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงครามพร้อมชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ต.เอนก ขจีจิตร สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสงครามได้นำตัวนายเอกพจน์ หรือเบิ้ล รัตนากร อายุ 33 ปี และนายสหรัฐ หรือแป๊ะ รัตนากร อายุ 26 ปี สองพี่น้อง ชาวจ.ราชบุรี มาแถลงผลจับกุม
กรณีที่สวมรอยเป็นเจ้าของพระเครื่องโทรศัพท์ว่าจ้างคนขับรถแท็กซี่ จากศูนย์แท็กซี่ในสมุทรสาคร ให้มารับพระเครื่องราคาแพงประมาณ 50 องค์ ส่วนใหญ่เป็นเกจิอาจารย์ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม รวมมูลค่ากว่า 8 แสนบาท ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อทางออนไลน์ และขอรับพระเครื่องคืนไปทั้งหมด และนำไปส่งให้มิจฉาชีพที่ จ.กาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปจับกุมได้ที่ จ.กาญจนบุรี แต่ปรากฏว่าทั้งสองได้กลับบ้านเกิด จ.ราชบุรี ขณะกำลังนั่งกินข้าวในร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรี จึงแสดงตัวจับกุมนำไปตรวจค้นบ้านพัก พบของกลางพระเครื่องเกือบครบ มีเพียงบางส่วนที่จำหน่ายออกไปแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนนายเอกพจน์ ให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นหรือรับของโจร และ พรบ.คอมพิวเตอร์”
สำหรับนายเอกพจน์ หรือเบิ้ล รัตนากร และนายสหรัฐ หรือแป๊ะ รัตนากร มีหมายจับของ สภ.เมืองลพบุรี เมื่อวันที่ 7 เม.ย.64 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ฯลฯ และเคยถูกจับกุมข้อหา “ฉ้อโกง” เมื่อปี 2559 นอกจากนี้นายสหรัฐ หรือแป๊ะ รัตนากร ยังเคยถูกจับกุมข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อปี 2557 ในพื้นที่ สภ.เมืองลพบุรี
พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่าผู้ใดที่ถูกฉ้อโกงในลักษณะคล้ายกันนี้ขอให้มาติดต่อที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม
ต่อมา พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน และชุดสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจชุดจับกุม พร้อมกำชับให้รวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุและพฤติกรรมเลียนแบบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอีก