วันนี้ (28 ก.ค.64) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการให้เสริมการจัดระเบียบการให้บริการ เพิ่มมาตรการเว้นระยะห่าง ลดความแออัด สำหรับประชาชนที่เข้ารับวัคซีน ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ วันนี้กระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่เพื่อลดความแออัดลง
โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2564 เป็นต้นไปสถานการณ์ความแออัดของผู้เข้ารับวัคซีน จะดีขึ้น เนื่องจากจะเริ่มใช้ระบบนัดหมาย โดยผู้ที่จะเดินทางมารับวัคซีนจะมีวัน เวลานัดที่ชัดเจน มีการย้ำเรื่องการไม่มาก่อนเวลาเพื่อลดการรวมตัวของประชาชน
ล่าสุดพญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้รายงานให้ทราบว่า ได้เกิดกรณีการทุจริตการจองคิวเพื่อขอเข้ารับวัคซีน โดยมีการแฮ็กระบบของบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง เพื่อนำโควตาวัคซีนไปขายสิทธิ์ต่อ โดยมีการจ่ายค่าหัวรายละ 500 – 1,000 บาท แต่เนื่องจากบริษัทมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด จึงสามารถตรวจสอบพบความผิดปกติ ขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้วเรียบร้อย หากสอบสวนแล้วพบว่าทำผิดจริงจะต้อง โทษจำคุก 3-10 ปี ขณะนี้กำลังสอบเพิ่มเติมด้วยว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็นหรือไม่ หากมีจะต้องรับโทษตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย
สำหรับประชาชนผู้ที่ซื้อสิทธิ์มารับวัคซีน กรณีที่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและหลักฐานการโอนเงินการติดต่อกับ ตัวกลาง หรือผู้กระทำการ จะกันเป็นพยาน และจะฉีดให้ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ฉีดวัคซีนให้และถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
“ขอให้ประชาชนทุกท่านลงทะเบียนตามระบบ อย่าหลงเชื่อผู้ที่นำสิทธิ์ต่างๆ มาเสนอขายให้เพราะบริษัทเครือข่ายมือถือที่เข้ามาร่วมให้บริการลงทะเบียน มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด เมื่อถูกตรวจสอบได้ท่านจะต้องถูกตัดสิทธิ์เพื่อไปเข้าระบบที่ถูกต้องใหม่อีกครั้ง จะทำให้เสียทั้งเงิน เสียเวลาและอาจตกเป็นผู้ทำผิดกฎหมาย แต่หากเข้าตามระบบทุกคนจะได้รับวัคซีนตามการจัดกลุ่มลำดับความเสี่ยงอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมีนโยบายรัฐบาลจัดหาวัคซีนให้ประชาชนทุกคน” นายศักดิ์สยาม กล่าว