svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ยุทธพงศ์"แฉอีก!พบพิรุธโครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ-จัดซื้อโดรน

25 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ยุทธพงศ์” แฉอีกพบพิรุธโครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำฯ งบ 900 ล้าน บริษัท CSOC ชนะราคาจ้างก่อสร้าง เป็นจีทูจีเก๊หรือไม่ อัดซื้อโดรน 3 ลำ 4,100 ล้าน มีความจำเป็นอะไร จี้กองทัพเรือชี้แจง พร้อมขอให้เห็นแก่ความเดือดร้อน-พิษศก. ยันไม่มีอคติกับกองทัพเรือ 

วันนี้ (25 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย  ร่วมแถลงข่าวเรื่อง สัญญาการจัดซื้อ(เรือดำนํ้า) แบบ G to G เก๊ เป็นสาเหตุที่ทำให้กองทัพเรือไม่กล้านำสัญญาฯ มาให้ กมธ.งบประมาณปี 65 ตรวจสอบ 

 

โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ที่ดูแลเรื่องงบการจัดซื้ออาวุธของกระทรวงกลาโหม มียอดดังนี้กองทัพบกขอยอดในการจัดซื้ออาวุธ 15,337 ล้าน คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ปรับลดไป 1,100 ล้าน  กองทัพอากาศขอยอด 11,540 ล้าน ถูกปรับลด 510 ล้าน กองทัพเรือเสนอมา 7,490 ล้าน แต่ถูกคณะอนุกรรมาธิการแขวนไว้ เนื่องจากกรณีสงสัยในความไม่โปร่งใสของสัญญาจีทูจี ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ซึ่งมีการตั้งคำถามว่า “จีทูจีจริง หรือจีทูจีเก๊” ซึ่งตนใช้คำว่าจีทูจีเก๊ ซึ่งจะฟ้องร้องก็ฟ้อง เนื่องจากมีความน่าสงสัย

"ยุทธพงศ์"แฉอีก!พบพิรุธโครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ-จัดซื้อโดรน

โดยจดหมายจากอดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ถึงนายสู่จ้าน ปิน เรื่องการจัดซื้อเรือ 2 ลำ คือ เรือยกพลขึ้นบกหรือเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์  LPD  มูลค่า 6,200 ล้าน และเรือดำน้ำลำที่ 1  มูลค่า 13,000 ล้าน ซึ่งบอกว่ามีการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งทางกรรมาธิการงบประมาณณ ได้ร้องขอต่อพลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขา ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้ส่งสัญญาการจัดซื้อเรือ LPD และเรือดำน้ำลำที่ 1 ให้กรรมาธิการงบประมาณฯ ได้ดู เนื่องจากมีค่างวดที่จะค้องไปจ่ายเงิน ในงบปี 2565 เรือดำน้ำ ที่มาขอต่อกรรมาธิการ 1145 ล้านบาท ส่วน LPD ของบประมาณ 1,674 ล้าน ทางกองทัพเรือไม่นำสัญญามาให้กรรมาธิการฯ ดูจะ อนุมัติเงินให้ได้อย่างไร เพราะ 2 รายการนี้ รวมกันเกือบ 3,000 ล้าน จึงมีมติแขวนงบของกองทัพเรือ เพื่อที่จะให้นำสัญญามาให้ดู ไปนัดวันชี้แจงที่ 27 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. ถ้ากองทัพเรืออ้างว่าสัญญาซื้อขายเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ กรรมาธิการฯ ก็ต้องขอตัดงบประมาณทิ้งทั้งหมด เพราะไม่รู้จะอนุมัติงบประมาณให้ได้อย่างไร  เพราะเราไม่ได้ขอดูระบบจรวดยิงได้ไกลกี่กิโล ระบบอาวุธนำวิถีมีอะไรบ้าง ใช้เรดาร์อะไร หรือใช้ระบบปืนอะไร จะพิจารณาดูเพียงเรื่องของงบประมาณเท่านั้น

 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นจีทูจีจริงหรือเก๊  สัญญาที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนลงนามฝั่งรัฐบาลจีนได้มอบตัวแทนให้บริษัท China Shipbuding&Offshore International Co.Ltd. (CSOC ) นายสู จีคี ประธานบริษัท ส่วนของรัฐบาลไทย คือกองทัพเรือ โดย พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นตัวแทน ส่วนการจ่ายเงินกองทัพเรือ จะโอนเงินให้บริษัท CSOC  ที่ ปักกิ่ง ประเทศจีน เรื่องดังกล่าวนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเหตุใดกองทัพเรือ จึงไม่กล้านำสัญญามาให้กรรมาธิการงบประมาณฯ ดู เนื่องจากตนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นจีทูจีเก๊หรือไม่ และหากมีการฟ้องร้องตนยินดีที่จะขึ้นศาลเพื่อทำการพิสูจน์ความจริง 


"ยุทธพงศ์"แฉอีก!พบพิรุธโครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ-จัดซื้อโดรน

ทั้งนี้บริษัท CSOC ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลจีนแต่เป็นจีทูจีเก๊ เพราะโครงการเรือดำน้ำงบประมาณทั้งหมด  44,224 ล้านบาท เช่น จัดซื้อนำน้ำลำที่ 1 งบ 12,424 ล้าน โครงการจัดซื้อเรือ อเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฎิบัติการเรือดำน้ำระยะที่หนึ่ง รๅ จำนวน 1 ลำ งบประมาณ 4,385 ล้านบาท โครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 2 งบประมาณ 1800 ล้าน โครงการจัดหาเรือดำน้ำจำนวน2 ลำ งบประมาณ 22,500 ล้านบาท (ยังไม่ได้เซ็นสัญญา)  และโครงการที่น่าสนใจ คือโครงการก่อสร้างท่าเรือดำน้ำ และอาคารสนับสนุนบริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ระยะที่ 1 งบประมาณ 900 ล้าน อย่างไรก็ตามทั้งหมด 9 โครงการเป็นงบผูกพัน ทั้งนี้โครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำฯ ตนได้เห็นประกาศกองทัพเรือ ผู้ชนะการเสนอราคาก่อสร้าง ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกคือบริษัท CSOC เสนอราคา 857 ล้านบาท ประกาศ 23 เมษายน 2564 โดยพลเรือตรี พิชัย ล้อชูสกุล เจ้ากรมช่างโยธาทหารเรือ  ซึ่งบริษัทนี้เป็นตัวแทนของจีน ซึ่งตนคิดว่าจะเป็นการก่อสร้างมช้เทคนิคพิเศษ เป็นเรื่องเฉพาะทางต้องใช้เทคนิคพิเศษ แต่เมื่อดูเนื้อหา เงิน 857 ล้าน รายการมีการขุดลอก บำรุงรักษาร่องน้ำ และงานเขื่อนกันคลื่นประมาณ 833 ล้าน ค่าใช้จ่ายพิเศษประมาณ 24 ล้าน ซึ่งต้องให้รัฐบาลจีนมาทำให้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ทั้งนี้ตนขอถามว่ารัฐบาลจีน โดยบริษัท CSOC จะกระจอกขนาดนั้นเลยหรือถึงได้มารับจ้างขุดลอก ดังนั้นตนจึงสงสัยว่าเหตุใดกองทัพเรือจึงไม่กล้านำสัญญามาให้กรรมาธิการได้ดูโดยอ้างว่าเป็นความลับ เพราะบริษัทนี้อาจจะไม่ใช่บริษัทจีนหรือไม่ ทั้งนี้บริษัทใหญ่ๆ ในประเทศไทยไม่สามารถทำได้เลยหรือ หากวันอังคารที่ 27 กรกฎาคมนี้ กองทัพเรือไม่นำสัญญามาให้ดูแสดงว่าไม่มีความตรงไปตรงมา และสัญญาจีทูจีอาจจะมีปัญหา 

 

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กองทัพเรือยังมีโครงการใหม่งบปี 2565 คือ โครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่ง 3 ตัว งบประมาณ 4,100 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าเครื่องบินลำเลียงของกองทัพบก ขนาด C130 ซึ่งเอกสารของกองทัพ โดยมีบริษัทมาเปรียบเทียบราคาจากประเทศอิสราเอลและประเทศจีน ทั้งนี้ตนคิดว่าไม่ใช่เครื่องของอิสราเอล เพราะ กองทัพเรือต้องการ 3 เครื่องในราคา 4,100 ล้าน แต่อิสราเอล เสนอมาแค่ 2 เครื่องจึงเขื่อว่าจะตกไป ส่วนประเทศจีนเสนอมา 3 ตัว ทั้งนี้โดรนดังกล่าวเป็นรุ่น  Wing Loog ll ซึ่งตรงกับเอกสารที่กองทัพเรือนำมาให้กรรมาธิการดู ลำละ 1,400 ล้าน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้กองทัพเรือยังไม่ได้ชี้แจง แต่ตนดูตามเอกสารที่นำมามอบให้ ทั้งนี้ตนขอถามว่าโดรนสามารถปราบโควิด-19 ได้หรือไม่ จะพาคนตายบินไปสวรรค์หรือลงนรกได้หรือไม่ เพราะราคาแพง ทั้งที่ขณะนี้คนรอความตาย ไม่มีโรงพยาบาลให้เข้ารับการรักษา ซึ่งขณะนี้สภาพประเทศไทยคล้ายกับประเทศอินเดียแล้ว รวมถึงคนกำลังอดอยากหิวโหย คำถามคือกองทัพเรือมีความจำเป็นใดที่จะต้องไปซื้อโดรน 3 เครื่อง ทั้งนี้ตนอยู่คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ วันที่ 27 กรกฎาคม หากกองทัพเรือไม่สามารถชี้แจงความจำเป็นในการจัดซื้อโดน เราจะขอปรับลดงบประมาณในส่วนนี้ และต้องขอร้องกองทัพเรือ ให้เห็นแก่ความเดือดร้อนความอดอยากหิวโหย วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ท่านจะอ้างว่าเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเล ในขนาดนี้ต้องรักษาชีวิตคนก่อน พวกตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะต้องต่อสู้คัดค้านในเรื่องการจัดซื้ออาวุธ และในฐานะส.ส. และในวันอังคารที่ 27 กรกฎาคม จะขอโหวตตัดงบโดรน หากแพ้จะไปสู้ต่อในกรรมาธิการชุดใหญ่ เพราะไม่จำเป็นและไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนและอาวุธที่จะซื้อมา ไม่ว่าจะเป็นเรือดำน้ำ โดรน เรือยกผลขึ้นบก ปราบโควิด-19 ไม่ได้ จึงยังไม่จำเป็นต้องซื้อ

 

“ตนขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารเรือ และเสนาธิการทหารเรือ แถลงชี้แจงกรณีความไม่โปร่งใสของการจัดซื้อแบบจีทูจี ของเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ยกผลขึ้นบกและเรือดำน้ำลำที่ 1 ที่มีข้อสงสัยและมีข้อครหา และทำไมจึงไม่นำสัญญามาให้กรรมาธการงบประมาณฯ ดู ทั้งนี้เราไม่ได้มีอคติกับกองทัพเรือ แต่อยากให้เข้าใจว่าทางกรรมาธิการฯ ทำงานแบบสร้างสรรค์ มีหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งกองทัพบก กองทัพอากาศ ก็มีการจัดซื้อแบบจีทูจี ก็มีการนำสัญญามามอบให้กรรมาธิการฯ ดูไม่ได้ปกปิดอะไร ดังนั้นจึงอยากให้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้ความร่วมมือกับกรรมาธิการฯ ในการตรวจสอบ ประชาชนจะได้ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่าจีทูจีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนในโครงการใหญ่ต้องมีพร้อมโปร่งใส และยืนยันว่าตนตรวจสอบงบของทุกกองทัพ และกองทัพเรืออ้างว่าจะกระทบความสัมพันธ์ ซึ่งตนไม่เชื่อว่ารัฐบาลจีนมารับจ้างประเทศไทยขุดลอก 800 กว่าล้าน ซึ่งกองทัพเรือจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเสียหายถ้าเป็นเรื่องจีทูจีไม่จริง

"ยุทธพงศ์"แฉอีก!พบพิรุธโครงการสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ-จัดซื้อโดรน

logoline