svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กรมควบคุมโรค แจง เหตุครูที่จ.ประจวบฯเสียชีวิตเพราะมีอาการสมองบวม

23 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมควบคุมโรค แจง เหตุครูที่จ.ประจวบฯ เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ พบมีอาการสมองบวมจากก้อนในสมอง เลื่อนไปกดทับแกนสมอง พร้อมแสดงความเสียใจ เผยพบข้อมูล กลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มที่ฉีดวัคซีนถึง 5.7 เท่า

วันนี้ (23 ก.ค.64) นายแพทย์เฉวตสรร นามวาด ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ซึ่งดูแลผลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 กล่าวถึง กรณีข้าราชการครู วัย 39 ปี ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิต 1 วันหลังได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้น ต่อจากเข็มที่ 1 ซึ่งเป็นวัคซีนซิโนแวค ว่า ได้มีการผ่าชันสูตรและทราบผลในเบื้องต้น ถึงสาเหตุการเสียชีวิต มีอาการสมองบวมจากก้อนในสมอง และเลื่อนไปกดทับแกนสมอง ทำให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวมา ณ ที่นี้ เหตุการณ์ที่เกิดจะนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ เพื่อพิจารณาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมด ทั้งโรคประจำตัวสถานะสุขภาพอื่นๆมาพิจารณา

 

ส่วนผลการฉีดวัคซีน ข้อมูลวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 เวลา 18:00 น. มีผู้ฉีดวัคซีนสะสมทั้งสิ้น 15,388,939 โดส เข็มที่ 1 จำนวน 11,805,180 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 3,583,759 ราย ซึ่งแบ่งเป็นซิโนแวค 7,933,854 โดส แอสตร้าเซนเนก้า 6,856,472 โดส ซิโนฟาร์ม 598,613 โดส

 

โดยเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังการเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลถึงวันที่ 18 กรกฎาคม  เข้าเกณฑ์อาการร้ายแรง 1,343 ราย เสียชีวิต 231 ราย ผู้ป่วยใน 2,565 ราย

 

กรณีที่ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว 398 ราย อยู่ระหว่างติดตามข้อมูล 1,110 ราย มีเหตุการณ์ร้ายแรง 398 ราย เกี่ยวกับวัคซีน เช่น อาการแพ้จำนวน 71 ราย ซึ่งรักษาหายทุกราย มีปฏิกิริยาเกี่ยวกับวัคซีนแต่ตรวจไม่พบความผิดปกติ จำนวน 240 ราย และหายดีทั้งหมด ส่วนกรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนเป็นการเจ็บป่วยรักษาหาย 36 ราย และเสียชีวิต 122 ราย และไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ 13 ราย

 

อาการที่พบหลังจากฉีดวัคซีน ซิโนแวค เวียนศีรษะร้อยละ 21.92 ปวดศีรษะ ร้อยละ 15.25 คลื่นไส้ร้อยละ 14.88 อาเจียนร้อยละ 12.43 อ่อนเพลียร้อยละ 9.37  ปวดกล้ามเนื้อร้อยละ 6.86 เป็นผื่นร้อยละ 6.4 ถ่ายเหลวร้อยละ 6 ไม่สบายตัวร้อยละ 4.41 ไข้ร้อยละ 3.9 8

 

ขณะที่อาการหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า พบอาการข้างเคียงเป็นไข้ร้อยละ 24.5 เวียนศีรษะร้อยละ 21.92 ปวดศีรษะร้อยละ 15.25 คลื่นไส้ร้อยละ 14.8 ปวดกล้ามเนื้อร้อยละ 14.21 อาจเปลี่ยนร้อยละ 12.43 อ่อนเพลียร้อยละ 9.37 ถ่ายร้อยละ 9.05 ไม่สบายตัวร้อยละ 8.2 เป็นลมร้อยละ 3.06

อาการผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน ซิโนฟาร์ม พบแสดงอาการเวียนศีรษะร้อยละ 32.35 คลื่นไส้ร้อยละ 29.41 อาเจียนร้อยละ 26.47 ปวดศีรษะร้อยละ 17.65 คันร้อยละ 8.82 อ่อนเพลียและ 8.82 ไข้ร้อยละ 8.82 เป็นผื่นร้อยละ 5.88 เป็นลมร้อยละ 5.88 เป็นผื่นแพ้ ร้อยละ 5.88

 

ขณะที่การวัดประสิทธิผลวัคซีนที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการศึกษาทางระบาดวิทยา ในโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แบ่งเป็นกลุ่มที่ฉีดวัคซีนนานกว่า 14 วันขึ้นไป มีจำนวน 336 ราย พบการติดเชื้อ 24 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.1 กลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน 27 ราย การตั้งคำถามถึงนโยบายการฉีดวัคซีนให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เหตุใดจึงเหลือจำนวนที่ไม่ได้รับการฉีด อธิบายว่าโรงพยาบาลต่างๆมีการระบุบุคลากรเข้ามาใหม่เช่นเดียวกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งยังไม่ถึงกำหนดฉีด หากสรุปตามข้อมูลระบุด้วยว่ากลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มที่ฉีดวัคซีนถึง 5.7 เท่า ซึ่งวัคซีน 2 เข็มมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 82.5 ในกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 14 วันขึ้นไป

 

นอกจากนี้ยังมีการเก็บข้อมูลในบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พบว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนนานกว่า 14 วันขึ้นไป มีอาการปอดอักเสบคิดเป็นร้อยละ 1.2 กลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนพบมีอาการปอดอักเสบ 2 รายคิดเป็นร้อยละ 7.4 ซึ่งหากเปรียบเทียบกันแล้วจะพบว่าผู้ที่มีอาการปอดอักเสบจะสูงถึง 6.2 เท่าในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีน ซึ่งถือได้ว่าวัคซีน 2 เข็มมีประสิทธิผลในการป้องกันปอดอักเสบถึงร้อยละ 83.9

นายแพทย์เฉวตสรร ย้ำว่า การฉีดวัคซีนโควิค-19 กว้างขวางในหลายประเทศ มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตและการป่วยที่รุนแรง จึงขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ และเข้ารับการฉีดวัคซีนตามเป้าหมายที่ได้มีการรณรงค์และกำหนดไว้

 

ขณะที่การฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อในบางพื้นที่ได้มีการเก็บข้อมูล อาการไม่พึงประสงค์หรือไม่ นายแพทย์เศวตสรร ระบุว่า ในระบบหมอพร้อม รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ได้มีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมายังมีความปลอดภัยดี มีกรณีที่เป็นข่าวส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่จะมีผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาการไม่พึงประสงค์ส่วนใหญ่ก็จะมีอาการปวดหัว เป็นไข้ เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน Astrazeneca ในเข็มแรก โดยทั่วไปแล้ววัคซีนถูกพิสูจน์ความปลอดภัยตั้งแต่ชนิดเดี่ยว จึงขอให้มั่นใจหากมีโอกาสข้างหน้า นำผลการเฝ้าระวังมาให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

logoline