23 กรกฎาคม 2564 จากสถานการณ์โรคโควิดที่มีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากกระจายทั่วเมืองกรุง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อแรงงานที่เดินทางไปจากจังหวัดศรีสะเกษเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ที่ติดเชื้อแล้วและผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสกับผู้ป่วยในครอบครัวเดียวกันในชุมชนเดียวกันประสงค์ต้องการกลับบ้านเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ เนื่องจากหากอยู่คอยไปก็อาจจะติดเชื้อและไม่มีเตียงที่จะรับตนเองเข้ารับการรักษา สภาพการจ้างงานก็ไม่มีในช่วงนี้เนื่องจากโรงงาน ห้างร้านต่างๆ ปิดตัวลงเกือบทั้งหมด
ประกอบกับมีการประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ห้ามเคลื่อนย้าย หากไม่จำเป็นแต่พวกตนต้องการที่จะเดินทางกลับบ้าน จิตอาสาของจังหวัดศรีสะเกษที่มีรถตู้ รถปิ๊กอัพ หรือรถอื่น ๆได้จับกลุ่มกันในการอาสารับผู้ป่วยผู้เสี่ยงสูงเดินทางกลับบ้าน โดยคันแรกต้องมาผ่านการให้ความรู้ในการสวมชุด PPE เพื่อป้องกันตนเองขณะเดินทางไปรับผู้เสี่ยงผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานครเพื่อเดินทางกลับมาบ้าน การเดินทางอาศัยในช่วงเวลากลางคืนเนื่องจากเป็นช่วงที่ปลอดจากผู้คน ไม่ต้องพักแวะที่ไหนนอกจากเติมน้ำมัน และหากผู้เสี่ยงสูงหรือผู้ติดเชื้อประสงค์จะเข้าห้องน้ำก็จะคอยระวัง ส่วนใหญ่จะมุ่งตรงกับถึงบ้านทันที
และเมื่อจิตอาสานำผู้ป่วยผู้เสี่ยงที่ติดเชื้อโรค โควิด-19 เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดแล้ว ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง อสม. จะประสานเข้าตรวจสอบสำรวจว่าเป็นผู้เสี่ยง หรือผู้ติดเชื้อ ผ่านการฉีดวัคซีนหรือยัง และต้องเข้าสู่กระบวนการมาตรการคุมเข้มของจังหวัดศรีสะเกษ นั่นก็คือต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน และหากเป็นผู้ที่ยังไม่ใช่ผู้ติดเชื้อก็สามารถพักยังเถียงนาโมเดลได้ 14 วัน แต่ถ้าเกิดเป็นผู้ติดเชื้อกระทั่งเข้าสู่บ้านพักคอยซึ่งเป็นบ้านหลังที่สองของจังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นจะมีหน่วยกู้ภัยที่ผ่านการอบรมจากสาธารณสุขและโรงพยาบาล เข้ามารับตัวเพื่อส่งเข้าไปโรงพยาบาลสนามเพื่อรับการรักษา โดยจะแยกออกเป็นสองกลุ่มคือ
กลุ่มแรกผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่มีอาการหนักจะเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม กลุ่มที่สองหากเป็นผู้ป่วยหนักต้องส่งต่อเข้าโรงพยาบาลทันที และเมื่อรักษาตัวหายในระดับหนึ่งแล้วก็จะกลับออกมาสู่บ้านหลังที่สี่คือศูนย์พักฟื้นอีก 14 วันก่อนตรวจสอบหากไม่ติดเชื้อ ไม่มีเชื้อจึงจะอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ วันนี้คนศรีสะเกษหากอยู่ต่างจังหวัดไม่ว่าจังหวัดใด หากอยากกลับบ้านต้องได้กลับบ้าน โทรศัพท์ประสานข้อมูลกับจังหวัดศรีสะเกษได้ทุกเบอร์ ได้ทุกอำเภอ รวมทั้งเบอร์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำท้องถิ่นของตนเองหรือเบอร์ญาติพี่น้องที่อยู่บ้านเกิด เพื่อประสานปลายทางรับทุกคนที่อยากกลับบ้าน พร้อมจัดรถไปรับทั้งรถจิตอาสา รถองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รถกู้ภัยจากมูลนิธิต่าง ๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการบริการฟรีทุกคน
โดย - พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์