เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเครื่องกำหนดวัตถุอื่นเป็นเครื่องสำอาง ให้ผ้าอนามัยชนิดสอด ที่ใช้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อซับเลือดประจำเดือนเป็นเครื่องสำอาง ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยท้ายประกาศ มีการลงหมายเหตุชี้แจงว่า เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ นิยามของคำว่า "เครื่องสำอาง" ในมาตราที่ 4 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ได้บัญญัติให้วัตถุอื่นที่กำหนดโดยกระทรวงเป็นเครื่องสำอาง และโดยที่มีความจำเป็น ต้องควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผ้าอนามัยชนิดสอดเพื่อให้สามารถคุ้มครองความปลอดภัยและอนามัยของผู้บริโภคได้ สมควรกำหนดให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
หลังมีการเผยแพร่กฎกระทรวงดังกล่าว ก็เกิดกระแสในโลกออนไลน์ทันที แฮชแท็ก #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี ทะยานขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์ โดยประเด็นหลักที่มีความกังวลคือ เมื่อมีการจัดประเภท ผ้าอนามัยแบบสอด ไปในหมวดเครื่องสำอาง อาจจะทำให้อัตราภาษี เพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 30 ตามเครื่องสำอางในท้องตลาด ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง เพราะมองว่า "ผ้าอนามัย" ไม่ว่าจะเป็นแบบใด คือสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคน
ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้
ยืนยัน ผ้าอนามัย เป็นสินค้าควบคุม ไม่ขึ้นภาษี
ชี้แจง ประกาศราชกิจจาฯ ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง ดังนี้