ศุกร์นี้ ตั้ง “จุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน” พื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด

วันนี้ (22 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ในฐานะ เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง หรือ ศปม. ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจการปฏิบัติการจัดตั้งด่านควบคุมโควิด-19 ตามมาตรการล็อกดาวน์ ในการบังคับห้ามออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ในพื้นที่สีเเดงเข้ม จำนวน 8 จุด โดยบินตามเส้นทางถนนวิภาวดี พหลโยธิน มุ่งหน้าสายเหนือ ไปทาง จ.สระบุรี จ.อ่างทอง แล้ววนไป จ.นนทบุรี เข้าบางแค  สะพานพระราม 9 บางกะปิ พระราม 5 โดยตรวจการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า จากการบินสำรวจพอใจในภาพรวม มีรถวิ่งอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เป็นรถสินค้าที่ได้รับอนุญาตแล้ว รถทั่วไปมีจำนวนน้อยมาก รถที่ผ่านจุดตรวจก็เป็นไปตามเงื่อนไขไม่มีข้อยกเว้น หากเป็นแบบนี้มั่นใจว่า สถานการณ์โควิดจะดีขึ้น

ส่วนการดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนยืนยันว่า มีการซีลชายแดนอย่างเข้มข้น ตั้งแต่มีการระบาดมากขึ้น และเพิ่มเติมกำลังเสริมเข้าไป แต่ต้องยอมรับว่าแนวชายแดนมีช่องทางธรรมชาติ มีลำน้ำเล็กใหญ่ ที่เป็นช่องโหว่ทำให้มีผู้คนลักลอบข้ามาได้ แต่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ รวมถึงฝ่ายปกครองทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ โดยสถิติการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมือง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 – ปัจจุบัน มีจำนวน 42,557 คน จับกุมตอนใน 10,428 คน พื้นที่ชายแดน 42,075 คน ผู้นำพา 411 คน คดีอื่นๆ 1,727 คน

นอกจากนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังทหารกระจายลงพื้นที่ จัดตั้ง “จุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน” ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด โดยให้ประสานทำงานร่วมกับ กทม. ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ทันที ซึ่งนอกจากทหารจะไปประจำที่สำนักงานเขตแล้ว จะให้มีการตั้งเต็นท์ตามพื้นที่ต่างๆ เป็นจุดประสานงาน ช่วยเหลือประชาชนในทุกเรื่องเรื่องไหนสามารถทำได้ทันทีให้ดำเนินการ หรือช่วยติดต่อประสานงานให้จนเสร็จเรียบร้อย โดยเริ่มวันศุกร์ที่ 23 ก.ค. นี้

ทั้งนี้ จุดตรวจตามมาตรการล็อกดาวน์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพฯ 88 จุด ปริมณฑล 23 จุด  4 จังหวัดชายแดนใต้ 39 จุด