รพ.รับผิดเรียกค่าจัดการศพโควิด-19แพงเวอร์ อ้างจนท.รู้เท่าไม่ถึงการณ์

จากกรณีครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตจากสาเหตุติดเชื้อโควิด-19 ร้องสื่อ รพ.ของรัฐเรียกค่าเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีทางศาสนา เป็นเงินจำนวน 15,000 บาท ไม่รวมค่าโลงศพ รวมทั้งทางวัดเรียกเก็บค่าเผาศพอีก 7,500 บาท ซึ่งทางครอบครัวและญาติไม่มีเงินจำนวนนั้น และเศรษฐกิจแบบนี้มาซ้ำเติมอีกนั้น

ล่าสุดวันที่ 15 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลบางละมุง พบนายแพทย์ชาญชัย ลิ้มธงเจริญ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลบางละมุง ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ว่าเนื่องจากที่ผ่านมารพ.บางละมุง มีศพผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 มาแล้ว 5 ศพ ซึ่งทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ด้วยญาติไม่กล้าดำเนินการเองเพราะเกรงจะติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการติดต่อสอบถามวัดที่รับดำเนินการเกี่ยวกับศพโควิด เพราะบางวัดไม่รับประกอบพิธี

โดยวัดที่รับจะคิดราคาค่าทำศพ 7,500 บาท ค่าโลงศพ 2,500 บาท และทางญาติผู้เสียชีวิตจะให้เงินตอบแทนเจ้าหน้าที่่ๆช่วยยกโลงศพไปดำเนินการเผา 4 คน คนละ 1,000 บาท ทำให้เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจในการดำเนินให้ 15,000 บาท แบบเบ็ดเสร็จ จนมาถึงเคสที่เกิดขึ้นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเสนอการดำเนินการประกอบพิธีทางศาสนากับศพผู้ป่วยโควิด-19 รายดังกล่าว

ซึ่งหลังทราบข่าวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่ไปแล้ว พร้อมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เฉพาะในบทบาทหน้าที่ของดำเนินการเกี่ยวกับศพผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการดูแลศพ การฉีดยาและการสวมถุงพลาสติกให้ศพมีความปลอดภัยเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ควรให้แต่คำแนะนำกับญาติผู้เสียชีวิตในเรื่องของการนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ไม่ควรดำเนินการในลักษณะที่รวบยอดแบบนี้ 

ทั้งนี้ทางรพ.พยาบาลก็ได้มีการโทรไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับญาติผู้เสียชีวิตแล้วเกี่ยวกับกระบวนการที่มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆที่เกิดขึ้นซึ่งทางญาติก็เข้าใจและเสนอกลับมาว่าไม่ควรมีการเสนอเรียกแบบในรูปแบบนี้เกิดขึ้น โดยหลังจากนี้ทางรพ.พยาบาลจะมีการควบคุมกับกำกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ทำในเฉพาะบทบาทหน้าที่่ ๆ อยู่ในส่วนของโรงพยาบาลเท่านั้น และให้ได้เพียงคำแนะนำญาติในการนำไปประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น

นายแพทย์ชาญชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการดูค่าใช้จ่ายผู้ป่วยโควิด-19 บัตรทอง จาก สปสช.นั้นจะดูแลเฉพาะคนไข้ที่มีชีวิตอยู่ ในการรักษาตั้งแต่การตรวจคัดกรอง ไปจนถึงการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไปจนถึงกระบวนการขั้นตอนจนรักษาหายจนสามารถกลับมาได้เท่านั้น แต่จะไม่มีการออกค่าใช้จ่ายในเรื่องอขงการประกอบพิธีทางศาสนาแต่อย่างใด เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วสปสช.จะไม่มีการดูแลในส่วนนี้แต่อย่างใด