จลาจลแอฟริกาใต้ระอุหนัก ดับแล้ว 75 ราย ห้างถูกปล้นกว่า 200 แห่ง
ยอดผู้เสียชีวิตจากการจลาจลในแอฟริกาใต้เพิ่มเป็น 75 รายแล้ว เมื่อความรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วประเทศหลังจากการจำคุกอดีตประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา ในความผิดฐานดูหมิ่นศาล โดยไม่มาให้การในการพิจารณาคดีคอร์รัปชั่น
สำหรับในกลุ่มผู้เสียชีวิต ก็รวมถึงผู้เคราะห์ร้าย 10 ราย จากเหตุเหยียบกันตายระหว่างการปล้นสะดมเมื่อคืนวันจันทร์ที่ศูนย์การค้าในเมืองโซเวโตด้วย
ขณะนี้ กองทัพได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือตำรวจ ที่รับมือกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่ไหว
ตำรวจแอฟริกาใต้เปิดเผยในแถลงการณ์ว่าเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัย 12 คนที่เชื่อว่ามีส่วนผลักดันให้เกิดการก่อจลาจล และมีผู้ถูกจับกุมแล้วทั้งหมด 1,234 คน
ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา เรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นความรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ตั้งแต่ปี 2533 คือช่วงก่อนการสิ้นสุดการแบ่งแยกสีผิว เมื่อมีการจุดไฟเผา มีการปิดทางหลวง ภาคธุรกิจและโกดังสินค้าถูกปล้นทั้งในเมืองใหญ่และเมืองเล็ก ในจังหวัดควาซูลู-นาทาล และกัวเต็ง ขณะที่รัฐมนตรีหลายคนออกกมาเตือนว่าหากการปล้นสะดมภ์ยังคงดำเนินต่อไป อาจมีพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะขาดแคลนอาหารพื้นฐานในไม่ช้านี้ แต่ก็ปฏิเสธที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน
รายงานล่าสุด ระบุว่าห้างสรรพสินค้ามากกว่า 200 แห่งถูกปล้นไปแล้ว อย่างศูนย์การค้าหลายแห่งในเมืองโซเวโต ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเนลสัน แมนเดลา ถูกรื้อค้นทั้งห้าง ตู้เอทีเอ็มพัง ร้านอาหาร ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร้านเสื้อผ้าพังยับเยิน
ทหารที่ทำงานกับตำรวจสามารถจับผู้ก่อการจลาจลได้ไม่กี่คน รวมแล้วมีผู้ถูกจับกุมเกือบ 800 คน แต่ฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมายก็ยังคงมีจำนวนน้อยกว่าผู้ก่อเหตุอยู่มาก
อย่างในจังหวัดควาซูลู-นาตาล ซึ่งมีปศุสัตว์ถูกขโมยไปด้วย เหตุการณ์ความไม่สงบยังคงดำเนินต่อไป เมื่อรถพยาบาลถูกโจมตีโดยผู้ก่อการจลาจลในบางพื้นที่ ธนาคารเลือดในเมืองเดอร์บัน ก็ถูกปล้นเมื่อคืนวันจันทร์ ขณะที่ประชาชนบางส่วนก็รวมตัวกันออกมาปกป้องชุมชนของตัวเองจากกลุ่มผู้ก่อจลาจล