ไบเดนบอกว่า “เราไม่ได้ไปอัฟกานิสถานเพื่อที่จะสร้างชาติ มันเป็นสิทธิและเป็นความรับผิดชอบของชาวอัฟกันเพียงลำพังในการตัดสินใจอนาคตของพวกเขา และวิธีที่พวกเขาต้องการบริหารประเทศของพวกเขา” ไบเดนบอกด้วยว่าจะไม่มีการส่งทหารรุ่นใหม่เข้าไปในอัฟกานิสถานอีก
งานนี้ เป็นการแสดงความคิดเห็นที่กว้างขวางที่สุดจนถึงปัจจุบันของไบเดนเกี่ยวกับการถอนทหารสหรัฐจากอัฟกานิสถาน เมื่อถูกกดดันจากนักวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เขาให้คำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับการตัดสินใจถอนทหาร
ไบเดนบอกด้วยว่า สหรัฐมีแผนที่จะอพยพล่ามชาวอัฟกันหลายพันคนพร้อมครอบครัวออกจากอัฟกานิสถานด้วยเมื่อสิ้นสุดภารกิจทางทหารของสหรัฐในประเทศนี้ ด้วยเกรงว่าคนที่ทำงานใกล้ชิดกับทหารสหรัฐจะได้รับอันตรายจากกลุ่มที่ไม่ชอบทหารสหรัฐ
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ทิ้งฐานทัพอากาศบากราม ซึ่งเป็นฐานที่ใช้มายาวนานสำหรับปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เพนตากอนบอกว่าการถอนกองกำลังสหรัฐออกมา เสร็จสมบูรณ์แล้ว 90%
วอชิงตันตกลงที่จะถอนทหารในข้อตกลงที่เจรจากันเมื่อปีที่แล้วสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ไบเดนก็คัดค้านข้อเสนอของผู้นำทางการทหารที่ต้องการให้สหรัฐคงทหารอยู่ต่อไป เพื่อช่วยเหลือกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของอัฟกานิสถาน และป้องกันไม่ให้อัฟกานิสถานกลายเป็นพื้นที่สำหรับกลุ่มหัวรุนแรง
งานนี้สหรัฐมีแผนที่จะทิ้งทหารแค่ 650 นายไว้ในอัฟกานิสถานเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับสถานทูตสหรัฐ
คำสั่งของไบเดนที่ออกมาในเดือนเมษายน ว่าให้ถอนกองกำลังสหรัฐออกมาทั้งหมดภายในวันที่ 11 ก.ย. หลังจากสู้รบมายาวนาน 20 ปี ออกมาใกล้เคียงกับการได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ของกลุ่มตาลิบานในการแย่งชิงการควบคุมพื้นที่กับฝ่ายรัฐบาล
ด้านนายพลออสติน มิลเลอร์ ผู้บัญชาการกองทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน ออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัฟกานิสถานอาจกำลังมุ่งหน้าสู่สงครามกลางเมือง