svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ล็อกดาวน์รอบใหม่ต้องกู้เงินเพิ่ม ครั้งแรกทำเศรษฐกิจพังแสนล้านต่อเดือน

08 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ หอการค้าไทย ระบุดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.ต่ำสุดรอบ 22 ปี 8 เดือน คาดหากล็อกดาวน์รอบใหม่ รัฐอาจต้องกู้เงินเพิ่มอีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกบทเรียนรอบแรกทำเสียหาย 2-3 แสนล้านบาทต่อเดือน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน มิ.ย.หรือ CCI ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการ อยู่ที่ระดับ 43.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์รอบ 272 เดือน หรือ 22 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่ทำการสำรวจเดือน ต.ค. 2541 เป็นต้นมา

ล็อกดาวน์รอบใหม่ต้องกู้เงินเพิ่ม ครั้งแรกทำเศรษฐกิจพังแสนล้านต่อเดือน

ซึ่งเห็นได้ชัด จากดัชนีการซื้อรถยนต์คันใหม่ บ้าน หรือการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต่ำสุดโดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 28.1 ปรับตัวลดลงจากระดับ 29.2 และความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ระดับ 50.1 ลดลงจากระดับ 52 สะท้อนถึงสถานการณ์ที่ย่ำแย่หนัก

 

ส่วนกรณีรัฐบาลจะมีการประกาศล็อกดาวน์หรือไม่ จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต จึงขอเสนอว่า หากจำเป็นต้องล็อคดาวน์ทั่วประเทศ อย่างการระบาดระลอกที่ 1 รัฐจะต้องอัดฉีดเม็ดเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการช่วยเหลือต่างๆ และอาจต้องกู้เงินเพิ่มเติมจาก 500,000 ล้านบาท

ล็อกดาวน์รอบใหม่ต้องกู้เงินเพิ่ม ครั้งแรกทำเศรษฐกิจพังแสนล้านต่อเดือน

ซึ่งวงเงินที่กู้ก่อนหน้านี้ เพียงพอต่อการพยุงเศรษฐกิจ แต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ คาดว่า หากมีการกู้เพิ่มรอบนี้ จะส่งผลให้เพดานหนี้สาธารณะเกินกว่า 62% โดยล็อคดาวน์ช่วงแรก สูญเสียเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ 2-3 แสนล้านบาทต่อเดือน

 

จากการสอบถามหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ 38.4% ไม่เห็นด้วยกับการล็อคดาวน์ทั่ว เพราะมองว่าเศรษฐกิจแย่อยู่แล้ว รองลงมา 35.7% คือเห็นด้วย จะได้ยุติการแพร่ระบาด และบางส่วนเห็นว่าควรล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งจะส่งต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวใกล้เคียง 0-1%

logoline