คนร้ายลอบสังหารผู้นำเฮติ ถูกวิสามัญแล้ว 4 ศพ-สตรีหมายเลข 1 ยังสาหัส
สถานการณ์กลุ่มมือสังหารที่เชื่อว่าเป็นทหารรับจ้าง บุกยิงประธานาธิบดีของเฮติและสตรีหมายเลข 1 ถึงบ้านพัก ล่าสุด ถูกตำรวจวิสามัญฯแล้ว 4 คน ถูกจับเป็น 2 คน หลังหนีไม่รอดและจับตำรวจเป็นตัวประกัน ส่วนอาการของสตรีหมายเลข 1 ยังสาหัส
ตำรวจเฮติเปิดเผยว่า ได้สกัดจับผู้ต้องสงสัย 6 คน ในจำนวนนี้ ถูกวิสามัญฯ 4 คน กับจับเป็น 2 คน โดยเชื่อว่า พวกเขาเป็นทหารรับจ้างที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (DEA) บุกเข้าไปกราดยิงที่บ้านพักในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ของประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส วัย 53 ปี และนางมาร์ตีน สุภาพสตรีหมายเลข 1 วัย 47 ปี เมื่อเช้ามืดของวันนี้ ส่งผลให้ประธานาธิบดีโฌเวแนลถึงแก่อสัญกรรม ส่วนนางมาร์ตีนถูกยิงที่ขาและแขน มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ช่องท้องกับมือ อาการสาหัส และต้องส่งตัวขึ้นเครื่องบินพยาบาลไปรักษาที่โรงพยาบาล "แจ็คสัน เมมโมเรียล" ไมอามี ทางใต้ของรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ
ผู้บัญชาการตำรวจลีออน ชาร์ลส เปิดเผยว่า ตำรวจได้สกัดกั้นไม่ให้ทหารรับจ้างกลุ่มนี้ ออกจากที่เกิดเหตุ และมีการยิงปะทะกัน มีรายงานด้วยว่าตำรวจ 3 นาย ถูกจับตัว
ก่อนเป็นอิสระในเวลาต่อมา ส่วนมือสังหารจำนวนหนึ่งได้หลบหนีไป แต่ชาร์ลสยืนยันว่า "ถ้าไม่จับเป็นก็จับตาย" ตำรวจบอกด้วยว่า คนร้ายใช้ทั้งภาษาอังกฤษและสเปน และเชื่อว่า มีทั้งชาวเฮติ โคลอมเบียและเวเนซุเอลา
การเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในปีนี้ ต้องเลื่อนออกไป หลังโคล้ด โจเซฟ รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศภาวะสถานการณ์ที่ต้องเข้าควบคุมพื้นที่ (State of Siege) พร้อมกับเรียกร้องให้นานาชาติเข้าร่วมการสืบสวน ขอการสนับสนุนด้านความมั่นคงจากสหรัฐฯ กับสหประชาชาติ ขณะที่กองทัพโดมินิกันส่งกำลังพลเข้าประชิดพรมแดน หวั่นความไม่สงบบานปลาย เพราะเฮติกำลังเข้าสู่ภาวะระส่ำระสาย เพราะไม่มีกรอบการทำงานด้านกฎหมายในการสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดี และทั่วประเทศก็มีคนที่มาจากการเลือกตั้งจริงๆ แค่ 10 คนเท่านั้น
เวลานี้ในเฮติมีควันลอยขึ้นจากหลายสถานที่ในเมืองหลวง และเสียงปืน ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการของตำรวจ หรือเป็นสัญญาณว่าประเทศที่ยากจนที่สุดในทวีปอเมริกาแห่งนี้ กำลังตกอยู่ในความโกลาหลที่หยั่งรากลึก บ้านเมืองเผชิญความรุนแรงจากแก๊งต่างๆ อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง และการประท้วงของผู้สนับสนุนฝ่ายค้านที่กล่าวหาว่าประธานาธิบดีโฌเวแนล ทำตัวเป็นเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆ
ประธานาธิบดีโฌเวแนล โมอิส เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 เขาเคยได้รับเครื่องราช
อิสริยาภรณ์หยกเจิดจรัส (Order of Brilliant Jade with Grand Cordon) จากประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2561 อันแสดงถึงการชื่นชมการริเริ่มแนวทางเศรษฐกิจที่ดำเนินการโดยรัฐบาลของโมอิส