svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

บุคลากรด่านหน้าวืดฉีดไฟเซอร์ แฉกลัวถูกจับได้"ซิโนแวค"ไร้ผลป้องกันโควิด

04 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บุคลากรด่านหน้า" มีอันชวดฉีดวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก โดยมีข้อสรุปให้เด็กอายุ 12-18 และกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีนก่อน แต่มีการแฉว่าสาเหตุหนึ่งที่ไม่ยอมฉีดให้บุคลากรด่านหน้าก็คือ "หากฉีดจะเท่ากับยอมรับว่าซิโนแวคไม่มีผลต่อการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากขึ้น"

4 กรกฎาคม 2564 ความคืบหน้าเกี่ยวกับ "วัคซีนทางเลือก" ในประเทศไทย ซึ่งมีการเรียกร้องให้นำเข้าวัคซีนให้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งมี 2 ยี่ห้อคือ ไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา โดยในส่วนของโมเดอร์นานั้น เวลานี้ยังไม่ได้เซ็นสัญญา โดยร่างสัญญาเพิ่งถูกส่งไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วน ไฟเซอร์ น่าจะได้รับค่อนข้างแน่ 20 ล้านโดสช่วงปลายปี แต่ล่าสุดมีข่าวดีว่าจะได้วัคซีนล็อตนี้เข้ามาก่อนจำนวน 1.5 ล้านโดส ภายในเดือนกรกฎาคม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการประชุมของหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจ และกำหนดเป้าหมายการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 1.5 ล้านโดส ซึ่งได้รับจากการบริจาค และคาดว่าจะกระจายภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ทันที 

เนื้อหาของการประชุมได้มีการอธิบายถึงประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์ในหลากหลายมิติ รวมถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดกับการฉีดเข็มแรกมากกว่าเข็มที่ 2 โดยผลข้างเคียงจะเกิดขึ้นภายใน 2-3 วัน และเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 

ส่วนวิธีการฉีดวัคซีน จะแบ่งเป็น 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 สัปดาห์ ต้องเก็บรักษาในอุณภูมิ -90 ไปถึง -60 องศาเซลเซียส ซึ่งหากเป็นอุณหภูมิระดับนี้ จะสามารถเก็บรักษาวัคซีนไว้ได้นานถึง 6 เดือน แต่หากเก็บไว้ที่อุณหูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส จะเก็บไว้ได้เพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น 

ส่วนการฉีดและกระจายวัคซีนไฟเซอร์ มีการหารือแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 3 กลุ่ม 3 ทางเลือก คือ 

  • กลุ่มแรก เป็นกลุ่มบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปี แต่ต่ำกว่า 18 ปี 
  • กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ได้แก่ ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 
  • กลุ่มที่สาม คือ บุคลากรด่านหน้า เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเป็นการฉีดเข็ม 3 เพราะบุคลากรด่านหน้ามีความเสี่ยงสูง และต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด ประกอบกับที่ผ่านมา มีบุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไปแล้ว แต่ยังติดเชื้ออยู่ โดยข้อเสนอการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับบุคลากรด่านหน้า มีหลายเสียงให้การสนับสนุน 

 

สุดท้ายที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กระจายวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป แต่จะต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดรุนแรง ซึ่งขณะนี้คือ พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อลดการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต แต่ยังไม่มีการฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรด่านหน้า เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันเรื่องการฉีดวัคซีน mRNA เข็มที่ 3 เพื่อการกระตุ้นภูมิ 

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า ในที่ประชุมมีการคัดค้านการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีน mRNA ให้บุคลากรด่านหน้า โดยอ้างเหตุผลหนึ่งว่า จะเท่ากับกระทรวงสาธารณสุขยอมรับว่า วัคซีนซิโนแวค ไม่มีผลต่อการป้องกัน "แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น"

logoline