โร่แจ้งความเอาผิดคลินิกเสริมความงามเถื่อน-เตรียมร้องสคบ.
แพร่ -ผู้ใช้บริการคลินิกเสริมความงาม ขึ้นโรงพักเมืองแพร่ แจ้งความดำเนินคดี พบคลินิกไม่มีใบอนุญาตและแพทย์ไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ หลังถูกสสจ.บุกจับ เตรียมร้องสคบ.ต่อ
โดย กัญญสร ถิ่นทิพย์
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นายภุชงค์ (นามสมมุติ) พร้อมด้วยผู้เสียหายจำนวน 4 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปกิต ผัดขัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อลงบันทึกประจำวันเนื่องจากตนเองเป็นผู้ใช้บริการคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งใน จ.แพร่ หลังจากทราบข่าวว่าคลินิกดังกล่าวได้ถูกดำเนินคดีไม่มีใบอนุญาตและไม่มีแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลป์ตามที่ได้ลงข่าวไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564ที่ผ่านมานั้น
โดยผู้เสียหายทั้งหมดได้ลงบันทึกประจำวัน ไว้เป็นหลักฐาน และจากนั้นได้เข้าปรึกษาทนายอาสา สภ.เมืองแพร่ เพื่อหาแนวการดำเนินคดี และจากนี้จะรวมตัวกันเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดแพร่ เนื่องจากเป็นผู้เสียหายจากการดำเนินการของคลีนิคดังกล่าวต่อไป
นายภุชงค์ (นามสมมุติ) เล่าว่า ที่เราได้ร่วมตัวกันมาในวันนี้ จากที่มีข่าวว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้บุกจับคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งที่ไม่มีใบอนุญาต ตนนั้นเป็นผู้ใช้บริการ ได้เข้าไปทำหัตถการที่คลินิกเสริมความงามแห่งนี้ มีผู้เสียหายหลายคนที่ได้รับความเสียหายจากการเสริมความงาม บางรายคางเกิดการอักเสบ ใต้ตาอักเสบ ซึ่งตนไม่มีความมั่นใจในคลินิกแห่งนี้ มีหลายคนที่ได้ทำการซื้อโปรโมชั่น และคอร์สเสริมความงามต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าและต้องการเงินส่วนนั้นคืน โดยได้ติดต่อทางบริษัทไปแล้ว ทางบริษัทมีการบ่ายเบี่ยง มีประประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ เราจึงได้ร่วมตัวกันมาแจ้งความก่อน
ในส่วนของตนนั้นได้ไปเจรจาแล้วได้รับเงินคืนเพียงบางส่วนเท่านั้น ตนนั้นได้ไปเสริมจมูกโดยใช้กระดูกตรงกกหูมาทำ ตอนแรกเขาบอกจะออกหนังสือรับรองให้ ตนจึงได้ขอหนังสือรับรอง ผู้เซ็นรับรอง หนังสือรับรอง สำเนาบัตรของผู้รับของ หนังสือประกอบวิชาชีพแพทย์ที่ทำให้ตน หลังจากมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าวนั้นพวกตนทราบว่าไม่มีใบอนุญาต จึงเกิดความไม่มั่นใจ และไม่รู้ว่าอนาคตที่เราทำไปนั้นจะเน่าหรือไม่ เพราะว่าขณะนี้ตนมีอาการเจ็บที่จมูก
"ผมทำจมูกตั้งแต่วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เห็นจากโฆษณาในเฟซบุ๊ก พอเข้าไปดูสถานที่เป็นสถานที่ที่น่าเชื่อถือ จึงไว้ใจที่จะเข้าใช้บริการ การเสริมความงานนั้นทำภายในคลินิกดังกล่าวเลย โดยในวันนั้นครั้งแรกผมตั้งใจจะเข้าไปปรึกษา แต่เจ้าหน้าได้ให้คำปรึกษาที่ดี จึงตัดสินใจใช้บริการเลย โดยของผมนั้นทำเสร็จประมาณ 5 ทุ่มกว่า แล้วมีเคสอื่นต่ออีก พอเห็นข่าวแล้วคิดว่าไม่น่าจะปลอดภัย ตอนนี้ได้ดำเนินการบันทึกประจำวันไว้แล้ว และทางทนายความได้แนะนำให้ร้องสคบ. เพื่อให้มีการไกล่เกลี่ยกันก่อน ในส่วนคดีอาญานั้นจาก สสจ.ได้ดำเนินการไปแล้ว" นายภุชงค์ (นามสมุติ) กล่าว
