svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

แถลงจับมือชิงทอง114บาท-ประสานพม่าล่าคนร้ายร่วมแก๊ง

02 กรกฎาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงราย - รองผบช.ภาค 5 แถลงจับผู้ต้องหาชิงทอง ห้างทองเยาวราชสินทวี สาขาย่อยตลาดป่าก่อเงี้ยว ได้ทองไป 114 บาท ก่อนข้ามหนีไปเมียนมา สารภาพเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.บ้านดู่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เผยมีเพื่อนร่วมขบวนการเป็นชาวพม่า

โดย ณัฐวัตร ลาพิงค์

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รองผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายบุกจี้ห้างทองเยาวราชสินทวีสาขาย่อยตลาดป่าก่อเงี้ยว ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 114 บาท มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา 

 

แถลงจับมือชิงทอง114บาท-ประสานพม่าล่าคนร้ายร่วมแก๊ง

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายพิเชษฐ์ ซาวคำเขต อายุ 24 ปี ชาว ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า M-SLAZ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้ในการก่อเหตุมาร่วมแถลงข่าวด้วย ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีจากจุดเกิดเหตุคนร้าย โดยใช้เส้นทางไปยัง อ.แม่จัน อ.ดอยหลวง อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย ก่อนหลบหนีไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

 พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รองผบช.ภาค 5 กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าได้ร่วมกับกับเพื่อนชาวเมียนมาในการวางแผนก่อเหตุ โดยหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศไปตามช่องทางด้าน อ.เชียงแสน และไปอยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาจากนั้นนำทองคำที่ได้ไปขายในราคาบาทละ 18,000 บาท ปัจจุบันของกลางยังคงอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะว่าเรื่องหนี้สิน และยังเคยก่อเหตุจี้ชิงทองที่ร้านทองสินทวี สาขา ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมาด้วย โดยผู้ร่วมก่อเหตุเป็นชาวเมียนมาเช่นกัน โดยใน 2 คดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุ 3 คน 

แถลงจับมือชิงทอง114บาท-ประสานพม่าล่าคนร้ายร่วมแก๊ง

 

ปัจจุบันได้มีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตามจับกุมนำมาดำเนินคดีในฝั่งไทยแล้ว ทั้งนี้จากกรณีทั้ง 2 คดีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอแจ้งเตือนไปยังร้านทองต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบให้ติดลูกกรงป้องกันให้เรียบร้อยเพราะว่าปัจจุบันในประเทศไทยมีการติดตั้งแล้วกว่า 90% แล้ว เนื่องจากทำให้เป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้จู่โจมชิงทองได้

 

สำหรับคดีจี้ชิงทองครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหลังก่อเหตุนายพิเชษฐ์ พร้อมพวกได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งยืมมาจากเพื่อนคนไทย จากนั้นนำไปฝากไว้ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนหลบหนีข้ามฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และเมื่อกลับมายังฝั่งไทยเมื่อวันที่ 30 มิุนายน 2564 ได้นำรถจักรยานยนต์ไปคืนให้เพื่อนแล้วเปลี่ยนมายืมรถยนต์กระบะอ้างว่าจะนำไปทำธุระเร่งด่วน แล้วขับรถไปตามถนนสาย อ.เมืองเชียงราย-อ.เทิง แต่มาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดจึงออกติดตามจับกุมได้ในที่สุด

 

แถลงจับมือชิงทอง114บาท-ประสานพม่าล่าคนร้ายร่วมแก๊ง

logoline