เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมชนของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ในวันนี้กลุ่มราษฎรได้รวมตัวทำกิจกรรมตั้งเวลา 05.00น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเคลื่อนขบวนเดินเท้ามาที่แยกเกียกกาย และในช่วงเย็นจะไปทำกิจกรรมที่สกายวอร์ค แยกปทุมวัน ซึ่งการทำกิจกรรมในทุกจุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนแล้วว่าเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยังฝ่าฝืนแระกาศคำสั่ง ห้ามรวมตัวทำกิจกรรม เกิน 50 คน เนื่องจากกทม. เป็นพื้นที่ควบคุมเข้มงวดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลังตำรวจ หน่วยงานควบคุมฝูงชน และตำรวจจราจรมาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
ส่วนการทำกิจกรรมในช่วงเช้าได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ฐานฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศคำสั่ง ผู้ว่าฯ กทม. ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะมีการติดตามการชุมชนของกลุ่มผู้ชุมชุนกลุ่มต่างๆด้วย หากมีการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายจะดำเนินคดี เช่นเดียวกับผู้ที่ยุยง ปลุกปั่น สนับสนุนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียก็จะถูกดำเนินคดีในมาตรฐานเดียวกัน จึงเตือนให้ผู้ชุมนุมเรียกร้องภายใต้กติกา และเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่กำหนด หากกิจกรรมใดที่ทำแล้วไปกระทบสิทธิ์ของประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งไม่ได้ถึงเพียงการสลายการชุมนุม แต่อาจหมายถึงการดำเนินคดีในภายหลัง
พร้อมกันนี้รองโฆษกตำรวจ เตือน แกนนำผู้ชุมนุมที่อยู่ในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว ว่า ขอให้กลับไปศึกษาคำสั่งศาลในการอนุญาตประกันตัวว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ อะไรที่ทำแล้วจะถูกถอนการประกันตัว ทุกอย่างเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายอยู่แล้ว จะทำอะไรขอให้พิจารณาอย่างถ่องแท้ก่อน พร้อมทั้งขอความร่วมมือการทำกิจกรรมให้ดำเนินตามขั้นตอนและข้อตกลงที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไว้
ส่วนการที่กลุ่มไทยไม่ทน และกลุ่มประชาชนไทย นัดทำกิจกรรมไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเย็นวันนี้ รองโฆษกตำรวจ ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการป้องกันไว้แล้ว แต่อยากให้ทุกอย่างมีการเจรจาระหว่างแกนนำและตัวแทนเจ้าหน้าที่ มีการระบุกิจกรรมที่จะทำ ช่วงเวลา ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการข่าวที่น่าเป็นห่วง