- 29 พ.ค. 2564
- 68
ญาติหนุ่มวัย 33 ชาวบุรีรัมย์ ที่ขับ จยย.หลบหนีการตรวจค้นยาเสพติด จนท.ฝ่ายปกครอง จนถูกขับรถไล่ล่าเกิดการยิงปะทะถูกกระสุนบาดเจ็บ ร้องขอความเป็นธรรมและแจ้งความเอาผิดชุดจับกุม ชี้ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุเข้าข่ายพยายามฆ่า หากทำผิดก็ควรจับกุมลงโทษตาม กม.ไม่ใช่ไล่ยิงแบบนี้ ทั้งเชื่อรอยตามตัวถูกกระสุนหลายนัดแต่ไม่เข้าเพราะมีของดี เคยกลืนกากหมาก และแขวนตะกรุดหลวงปู่เอก เกจิดัง
29 พฤษภาคม 2564 จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ขับรถยนต์ไล่ล่าและยิงปะทะกับ นายพีรพงษ์ สุรินทร์สมบูรณ์ หรือปัง อายุ 33 ปี ชาว ต.สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์ หนุ่มต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด แต่หลบหนีการตรวจค้น จนกระสุนโดนหน้าขาด้ายซ้าย และนิ้วเท้าด้านขวา ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเหตุเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา บนถนนสายบุรีรัมย์ ประโคนชัย ช่วงบ้านสารภี ต.สำเสม็ด ล่าสุดนายพีระพงษ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาฐานต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติตามหน้าที่ อาการดีขึ้นหมออนุญาตให้ออกจาก รพ.ได้แล้ว
หลังจากที่ออกจาก รพ.นายพีระพงษ์ ก็แจ้งความกลับเอาผิดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดที่จับกุม เพราะเป็นการทำเกินกว่าเหตุและเข้าข่ายพยายามฆ่า เพราะเจ้าหน้าที่มีการขับรถยนต์ปาดหน้า ก่อนจะขับไล่ยิง ทั้งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายยิงใส่ก่อนประมาณ 3 นัด จึงได้ชักปืนออกมายิงสวนกลับไป 1 นัดเพื่อป้องกันตัว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังขับรถไล่บี้และยิงซ้ำอีกหลายนัด จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าล็อกตัว
ขณะที่ญาติของนายพีระพงษ์ ผู้ต้องหา ก็ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าล็อกตัวนายพีระพงษ์ พร้อมสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง เพื่ออยากทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคาใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เบื้องต้นก็ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน และทำเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมด้วย เพื่อให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุและให้ผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุด้วย
นายถวิล สุรินทร์สมบูรณ์ พ่อของนายพีระพงษ์ บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุมทำเกินกว่าเหตุ หากลูกชายตนเองกระทำผิดก็ควรจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ไม่ควรจะกระทำรุนแรงถึงขนาดขับรถปาดหน้าและไล่ยิงบาดเจ็บแบบนี้ หากลูกตนเองเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบ ตนไม่รู้ว่าลูกชายจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่แต่ในวันเกิดเหตุลูกก็ไม่ได้มียาเสพติดในตัว จึงอยากให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว หากพบว่าทำเกินกว่าเหตุจริงก็ควรจะมีบทลงโทษเพื่อไม่ให้กระทำแบบนี้อีก
ด้านป้า ของนายพีระพงษ์ บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำรุนแรงเกินเหตุ หากหลานทำผิดก็ควรจะดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมาย ไม่ใช่ไล่ยิงจนบาดเจ็บ ซึ่งรอยบริเวณหน้าอกเชื่อว่าเป็นรอยกระสุนที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิง แต่เคราะห์ดีที่หลานมีของดีคุ้มครอง คือตอนที่หลานไปบวชเณรที่วัดศาลาลอย หลวงปู่เอก เจ้าอาวาส ได้คายกากหมากที่เคี้ยวแล้วให้หลานกินซึ่งน่าจะเป็นของดีที่หลวงปู่ให้ ทั้งหลานยังแขวนตะกรุดที่พับรอบด้วยผ้ายันต์สีแดงด้วยจึงทำให้กระสุนเจาะไม่เข้า ทำให้หลานรอดชีวิต