หนุ่มโคราชเร่ขายกระทะเตาแก๊ส หาเงินจัดงานศพให้พ่อ

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายได้รับแจ้งจากอาสาสมัครประจำศูนย์ดูแลพระสงฆ์อาพาธและผู้ป่วยยากไร้ระยะสุดท้าย วัดป่ากรรมฐาน บ้านโนนสะอาด ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ว่า ครอบครัวนายรณกฤต  จันทรเสนา อายุ 41 ปี และดาบตำรวจสันติพร จันทรเสนา อายุ 66 ปี ผู้เป็นพ่ออดีตตำรวจตระเวนชายแดนได้รับผลกระทบจากโควิดสามระลอก โดยพ่อผูกคอเสียชีวิตและลูกชายต้องนำทรัพย์สินที่ใช้ประกอบอาชีพทำหมูแดดเดียวทั้งหม้อ กระทะ เตาแก๊ส ฯ ขายหาเงินจัดงานศพพ่อ จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง









เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2564 ที่ฌาปนสถานวัดบุ่ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา สถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ดต.สันติพร พบตัวแทนพระอาจารย์แสนปราชญ์  ปัญญาคโม ผู้ก่อตั้งศูนย์ดูแลพระสงฆ์ ฯ และพันโทไตรภพ  สมดี หัวหน้าแผนกประวัติบำเหน็จและบำนาญ ช่วยราชการกองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ (มทบ.) 21 กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ในฐานะตัวแทนสมาชิกกลุ่มนครชัยบุรินทร์มอบเงินที่ได้จากการบริจาคของเพื่อนสมาชิกและผู้มีจิตศรัทธาให้กับนายรณกฤต เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการจัดงานศพและร่วมขึ้นทอดผ้าบังสุกุล โดยมีญาติและคนที่รู้จักมักคุ้นได้มาร่วมแสดงความอาลัยและส่งดวงวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ประมาณ 50 คน

นายรณกฤต เปิดเผยว่า ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงและไตวายเรื้อรังต้องฟอกไต 2 วันครั้ง ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ส่วนแม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา จึงไม่มีใครดูแลพ่อ ตนต้องออกจากงานมาคอยดูแลพ่อที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงร่วม 10 ปี โดยประกอบอาชีพทำหมูแดดเดียววันละ 5 กิโลกรัม ส่งขายที่ตลาดร่วมใจ ปตท. ค่ายสุรนารี ต่อมาได้เกิดโควิดแพร่ระบาดทำให้ต้นทุนวัตถุดิบเนื้อหมูดิบขึ้นราคาและยอดขายลดลงจนกระทั่งโควิดระบาดระลอกใหม่ ตนไม่สามารถแบกรับภาระเนื้อหมูที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังปรับราคาขายไม่ได้อีก จึงต้องหยุดขายชั่วคราว

ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนซึ่งเป็นค่าเช่าบ้านเดือนละ 3,000 บาท ค่าอาหารและอื่น ๆ เฉลี่ยรวม 6-7,000 บาท โดยได้จากเบี้ยผู้พิการเดือนละ 800 บาท เงินบำนาญหักหนี้เงินกู้สหกรณ์เหลือเดือนละ 700 บาท รวมทั้งเงินจากน้องชายส่งมาให้เดือนละ 2-3,000 บาท โดยเฉพาะรายได้หลักจากการขายหมูแดดเดียวที่มีกำไรวันละ 150-200 บาท ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมาก พ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียงแต่ยังสติ สัมปชัญญะ รับรู้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นประกอบกับอาการป่วยทรุดหนักได้ฉวยโอกาสใช้สายไฟฟ้าผูกคอตัวเองเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 เม.ย ที่ผ่านมา ชีวิตตนมืดมน เงินจะซื้ออาหารกินก็ไม่มี จึงต้องขายทรัพย์สมบัติที่ใช้ประกอบอาชีพได้เงินมาไม่กี่พันบาท มาเป็นค่าใช้จ่ายจัดงานศพให้พ่อซึ่งก็ไม่พอแต่มีญาติได้ให้ยืมเมื่อเสร็จงานศพก็ต้องทำงานหาใช้คืน  

ขอขอบคุณพระอาจารย์แสนปราชญ์ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ระยะสุดท้ายและเครือข่ายกลุ่มอาสาสมัครช่วยนักท่องเที่ยวนครชัยบุรินทร์ ได้ช่วยเหลือเป็นเจ้าภาพจัดงานศพและมอบเงินส่วนหนึ่ง