ภาค6ทลาย3เครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
พิษณุโลก - สืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ทลายแก๊ง 3 เครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่ พบเครือข่ายแรกเป็นนายกอบต.พบพระ เชื่อมโยงขบวนการค้าไอซ์ 1.5 ตัน พร้อมยึดบ้าน รีสอร์ท อีกเครือข่าย "พี่แหลม พิโลก" เปิดขายยาบ้าทางเฟซบุ๊ก พ่อค้าอายุเพียง 20 ปี มีเงินในบัญชี 20 กว่าล้าน ส่วนอีกรายเป็นเครือข่าย "บอย ป่ามะคาบ" ลูกน้อง "โก๋เก๋ มันทุกเม็ด" เผยยึดทรัพย์สิน มากกว่า 30.5 ล้านบาท ได้ผู้ต้องหา 6 ราย
วันที่ 27 เมษายน 2564 พ.ต.อ.ศราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 เปิดเผยว่า ในห้วงวันที่ 26 27 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ตาก จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการกวาดล้างขวนการค้ายาเสพติด ในช่วงมีการแพร่ระบาดโควิด-19 อาจทำให้ช่วงนี้ขบวนการค้ายา ฉวยโอกาสในการแพร่กระจายยาเสพติดได้ ทำให้ พล.ต.ท. อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ได้สั่งการให้ตำรวจในสั่งการทำการกวาดล้าง ในห้วงเวลาดังกล่าว และสามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดสำคัญรายใหญ่ ได้ 3 เครือข่าย
ประกอบด้วยเครือข่ายนายวิชิต อาพลรุ่งโรจน์ หรือกว่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพบพระ อ.พบพระ จ.ตาก สืบเนื่องเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ยึดยาไอซ์ 1.5ตัน ที่จุดตรวจบ้านห้วยระอุ จ.ตากวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 จับกุม น.ส.หลิน ชาล์ ที่ย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท วันที่ 4 เมษายน 2564 จับกุม น.ส.ปาณิสรา ศิริกรไตรวิชญ์หรือเจน กับพวก ที่ย่านลาดพร้าว ของกลางยาไอซ์ 100 กิโลกรัม และยาเค 100กิโลกรัม
จากนั้นได้ทำการขยายผล จนขอออกหมายจับนายวิชิตกับพวกรวม 4 คน ซึ่งเป็นเครือญาติของ น.ส.ปาณิสรายึดทรัพย์สินนายวิชิต เป็นเงินในบัญชี 1.1 ล้านบาท รีสอร์ท และบ้าน มูลค่า 7.5 ล้านบาท เบื้องต้นนายวิชิต ได้หลบหนีไปก่อน และสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมเกี่ยวข้อง 1 ราย ล่าสุดมีรายงานว่านายวิชิต จะมีการเจรจาขอมอบตัวเพื่อสู้คดี
เครือข่ายที่ 2 เป็นเครือข่าย "พี่แหลม พิโลก" ที่มีพฤติกรรมใช้เฟซบุ๊กชื่อ "พี่แหลม พิโลก" โพสต์ขายยาเสพติด ในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 ได้ตรวจสอบเฟซบุ๊ก "พี่แหลม พิโลก" พบว่ามีรายละเอียด ตรงกับเฟซบุ๊คชื่อว่า "อภิรักษ์ แก้วเพ็ชร (ฟอร์จูน)" อายุ 20 ปี เป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบนายอภิรักษ์ แก้วเพ็ชร พบความผิดปกติทางการเงิน ที่มีเงินในบัญชีไม่ต่ำวกว่า 20 ล้านบาท ทั้งๆที่ไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง ต่อมาวันที่ 4 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับนายอภิรักษ์ กับพวกจำนวน 4 ราย ข้อหาสมคบฯ ตามพ.ร..ยาเสพติด ยึดทรัพย์สิน นายอภิรักษ์ และเครือข่าย มูลค่า 20 ล้านบาท โดยนายอภิรักษ์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าว และพยายามขอประกันตัว ทางเจ้าหน้าที่คัดค้าน และได้ฝากขังตัวนายอภิรักษ์ อยู่ที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก
ส่วนเครือข่ายสุดท้าย เป็นเครือข่าย ของ "บอย ป่ามะคาบ" โดยเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 จับกุมนายศักดิ์ชัย เจริญสุข หรือตาล ที่ จ.สุโขทัย ได้ของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด จากนั้นได้ทำการขยายผลจนทราบว่า นายปิยะณัฐ คัชมาตย์หรือบอย ชาว จ.พิจิตร อยู่ในเครือข่าย"โก๋แก่ มันทุกเม็ด" มีพฤติกรรมเชื่อมโยมคอยว่าจ้างให้ผู้นำยาไปวางตามจุดต่างๆ เพื่อให้แก๊งที่ร่วมขบวนการ มารับยาไปส่งให้กับลูกค้าอีกครั้ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ นายปิยะณัฐ กับพวกจำนวน 4 ราย ข้อหาสมคบฯ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ยึดทรัพย์สิน นายปิยะณัฐ และเครือข่าย มูลค่า 2 ล้านบาท ส่วนตัวนายปิยะณัฐ ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
พ.ต.อ.ศราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 เครือข่ายยึดทรัพย์สิน มากกว่า 30.5 ล้านบาท ได้ผู้ต้อหา 6 รายคดี ถือว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดที่สำคัญมาก ทาง พล.ต.อ. มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. จะมาแถลงข่าวด้วยตนเองในครั้งนี้แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องยกเลิกการแถลงข่าวไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำการขยายผลแต่ละขบวนการอย่างต่อเนื่อง เพราะรูปแบบการค้ายาเสพติดในอนาคตจะเปลี่ยนไป จนน่าเป็นห่วง ทั้งการค้าขายทางออนไลน์ หรือการใช้กลยุทธ์ตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีมากขึ้น
