ตั้งคณะสงฆ์สอบอธิกร เจ้าสำนักสงฆ์เทศเสพเมถุน

19 มีนาคม 2564 ที่ วัดป่าศรีสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวได้เข้ากราบขอรายละเอียดเพิ่มเติม จากกรณีที่ พระกรันยา หรือที่ทุกคนเรียกขานกันว่า หลวงตากรันยา หัวหน้าที่พักสงฆ์ วัดป่าเนื้อนาบุญ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ภายหลังจากเปิดสำนักสงฆ์มานานกว่า 5 ปี ได้เปิดโอกาสให้ญาติโยมได้เข้ามาปฏิบัติธรรม ถือศีลภาวนา นั่งสมาธิ โดยมิได้บังคับว่าจะต้องนุ่งขาวห่มขาวหรือไม่ ขณะเดียวกันหลวงตา ก็จะเทศนาสั่งสอน ขณะปฏิบัติธรรม แต่คำเทศนามีความผิดเพี้ยนไปมากพอสมควร โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปในเรื่องเซ็กส์ เรื่องกามมารมณ์ หนักถึงขนาดมีการอธิบายการร่วมเพศอย่างไรถึงจะมีบุญวาสนามีกุศลมากได้ขึ้นสวรรค์ สาธิตแม้กระทั่งการร้อง ขณะมีความสุขด้วย แถมยังมีการบันทึกเสียงลงมาเปิดให้ฟังใน Facebook ของทางวัด

เมื่อพี่น้องประชาชนหลายคนได้ฟัง เกิดความสงสัยว่าถูกตามหลักพระธรรมวินัยหรือไม่ และขณะที่เจ้าคณะจังหวัดลงไปตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ ร่วมกับปกครองอำเภอปรางค์กู่ พร้อมกับคณะของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ พบว่าที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ มีหลวงตาที่เป็นพระอยู่เพียงรูปเดียว นอกนั้นเป็นญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงทั้งหมดกว่า 30 คน ซึ่งโดยปกติใครที่จะเข้าไปในบริเวณสำนักสงฆ์จะต้องผ่านประตูทางด้านเดียวและจะต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น บางครั้งสามีที่จะเข้าไปตามภรรยาที่มาปฏิบัติธรรมยังต้องพักคอยอยู่ด้านหน้าข้างนอก จึงเป็นที่แคลงใจของสังคมว่าสำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร

ท่านเจ้าคุณ พระวินัยเมธี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ ได้เปิดเผยเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ตามที่ได้มีข่าวในกรณีที่เกิดอธิกร ขึ้นกับภิกษุดังกล่าวนั้น ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าคณะจังหวัด ในการปกครองดูแลคณะสงฆ์สายธรรมยุต ก็ได้เดินทางเข้าไปเพื่อทำการสอบสวน เป็นเบื้องต้นของสาระในเรื่องพระธรรมวินัย ก็ได้ให้ท่านได้ปรับปรุงคำเทศนาสั่งสอนในเรื่องที่มันไม่ถูกต้อง ซึ่งจะได้มีการติดตามดูพฤติกรรมในขั้นตอนต่อไป ซึ่งตรงนี้คณะสงฆ์ก็ได้ทำงานตามหน้าที่ในการดูแลในเรื่องพระธรรมวินัย ซึ่งก็บรรลุเป็นขั้นแรก

ส่วนเรื่องที่ท่านรับปากว่าจะปฏิบัติตามพระธรรมวินัย จะหยุดเทศนาในเรื่องดังกล่าว ได้มอบหมายให้เจ้าคณะอำเภอได้สอดส่องตรวจสอบดูแลว่าท่านปฏิบัติตามคำรับรองหรือยัง เพื่อให้กระบวนการทางศาสนาในการเผยแผ่หลักธรรมให้เดินต่อไปได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่าท่านได้ทำตามที่รับรองหรือยัง โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความเป็นธรรมในธรรมวินัย ของศาสนา ที่ประชาชนชาวพุทธนับถือกัน และความเป็นธรรมกับตัวบุคคลผู้ปฏิบัติ ซึ่งก็คือพระรูปนั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะสงฆ์เข้าไปสอบสวนว่าคำสอนเทศนานั้นผิดเพี้ยนอย่างไรบ้าง ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ทั้งเรื่องคำสอนตามพระธรรมวินัย และเรื่องพฤติกรรมของตัวพระซึ่งเป็นบุคคล เพื่อให้กระจ่างต่อสังคมชาวพุทธ

เรื่องนี้น่าจะเป็นการผิดในคำสอนจากพระธรรมวินัย โดยเมื่อเขาทำไปแล้วก็ต้องมาดูการผิดอธิกรของพระ โดยต้องดูต่อว่าผิดโดยธรรมและโดยวินัยของพระสงฆ์มากน้อยแค่ไหน จะต้องรอผลการสอบสวนของคณะสงฆ์ที่เป็นฝ่ายปกครองได้เข้าไปดูแลก่อน แล้วคณะสงฆ์ก็จะประชุมพิจารณาอีกครั้งเพื่อหาข้อผิดอธิกร และบทวินัยในการลงโทษตามความผิดต่อไป

ขณะเดียวกันบรรยากาศที่สำนักสงฆ์วัดป่าเนื้อนาบุญ ตั้งแต่เช้าของวันนี้ยังมีรถเข้ามาจอด มีผู้ที่เข้ามาปฏิบัติธรรมกันตามปกติ แต่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณอาณาเขตของวัดโดยเด็ดขาด เมื่อสอบถาม ผู้ที่มาทำงานก่อสร้างอยู่ที่ประตูทางเข้าวัด เพื่อก่อสร้างประตูปิดกั้น บุคคลภายนอกจะเข้าต้องได้รับอนุญาตก่อน โดยแจ้งว่าพระอาจารย์สำนักสงฆ์ห้ามบุคคลภายนอกที่ยังมีบาปอยู่ห้ามเข้า โดยผู้ที่จะเข้าได้จะต้องลงมาอาบน้ำแช่น้ำในถังน้ำที่ทางสำนักสงฆ์กำหนดไว้ โดยจะมาอาบที่วัดแห่งนี้ หรือจะนำไปอาบที่บ้านก็ได้จนกว่าตัวจะหอมถึงจะอนุญาตให้เข้าไปกราบพระสงฆ์ที่อยู่ด้านในไปพบพระอาจารย์ ไปปฏิบัติธรรมได้เฉกเช่นคนอื่น 

ผิดไปจากวัดปกติหรือสำนักสงฆ์ทั่วไป ที่ให้ญาติโยมเข้าไปกราบสักการะพระสงฆ์ กราบพระ หรือเข้ามาปฏิบัติธรรมได้อย่างเสรีตามคำสอนของพระพุทธศาสนา ขณะเดียวกันคลิปเสียงที่ปล่อยลงใน Facebook ที่มีคำสอนผิดเพี้ยนสื่อลามกชัดเจน ยังคงดำเนินการปล่อยเป็นปกติ ยังไม่มีการลบออกจาก Facebook ของทางวัดแต่อย่างใด