เริ่มตั้งแต่ เวลา 16.00 น. กลุ่มราษฎรพร้อมแนวร่วมมาตามนัด ทยอยรวมตัวกันบริเวณสกายวอล์ค MBK มาบุญครอง มีการหิ้วหม้อ กะทะ ตะหลิว ครก สาก กะละมัง ถัง ถ้วยมาด้วย สุดแต่ใครจะหาอะไรมาได้
เวลา 16.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจ บก.น.1 บก.น.5 กองร้อยน้ำหวาน รวม 8 กองร้อย กว่า 1,800 นาย เข้าประจำจุด
16.40 น. สถานการณ์เริ่มตรึงเครียด มวลชนฮือ เคาะหม้อใส่ตำรวจชุดคุมฝูงชน หวังยั่วยุอารมณ์
16.50 น. ผกก. สน.ปทุมวัน นำประกาศคำสั่งห้ามชุมนุมในที่สาธารณะแจ้งให้มวลชนทราบ พร้อมประกาศให้ยุติการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่ได้สนใจ
17.00 น. ไมค์ ภานุพงษ์ จาดนอก ปรากฎตัว ยืนยัน ข้อเรียกร้องการชุมนุม 3 ข้อ ให้นายกฯลาออก แก้รธน. และปฏิรูปสถาบัน และให้ปล่อยตัวแกนนำ 4 คน
17.10 น. แกนนำประกาศเคลื่อนขบวนมวลชนปักหลักหอศิลป์ เปิดเวทีปราศรัย ไมค์ขึ้นเวที
17.20 น. ชาวเมียนมากกว่า 100 คน มาร่วมชุมนุมสมทบ ต้านรัฐประหารเมียนมา เรียกร้องให้ปล่อยตัวอองซาน ซูจี ส่วนม็อบไทยก็จี้ 3 ข้อเรียกร้องเช่นกัน
17.30 น. ผู้ชุมนุมทยอยมามากขึ้น ทำให้สกายวอล์ค และหน้าหอศิลป์ เสียงดังไปด้วย หม้อ กะทะ ตะหลิว ครก สาก กะละมัง ถัง ถ้วย ฯลฯ
18.00 น. ตำรวจคุมตัวมวลชน 2 รายเป็นเยาวชนขึ้นแย่งป้ายผ้าที่ติดบนสกายวอล์ค ทำให้เกิดความชุลมุน มวลชนหรูวิ่งตาม
18.20 น. รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือชุมนุมด้วยความสงบ อย่าเคลื่อนขบวน เพราะผิด พรก.ฉุกเฉิน พรบ.คุมโรคติดต่อ และพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะ
18.25 น. รุ้ง ปนัสยา ปรากฎตัวในการชุมนุม นั่งฟังการปราศรัย แต่ยังไม่ขึ้นเวที
18.30 น. หน้าหอศิลป์ปราศรัยอย่างดุเดือด หลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และสถาบัน โยงไปถึงเหตุการณ์ของเมียนมาด้วย
19.30 น. แกนนำกลุ่มราษฎร (รุ้ง -ไมค์) ประกาศนำมวลชนเดินเท้ามาบริเวณสน.ปทุมวัน เพื่อเตรียมปิดล้อมด้วยการนำแผงกั้นเหล็กมาวางกั้น และเตรียมบุกเข้าไปในสน.ตามที่ขีดเส้นตายเวลา 20.30 น. เพื่อให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมและนำมาคุมตัวไว้ที่สน.ปทุมวัน แกนนำระบุว่าถูกจับไปนับ 10 คน
19.45 น. มวลชนทอยเดินถึงหน้า สน.ปทุมวัน พร้อมตะโกนให้ปล่อยเพื่อนเรา ๆๆ
...
20.30 น. เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง บริเวณสวนหลวงสแควร์ ซึ่งอยู่ถัดจากด้านหลังสน.ปทุมวันไปเพียง 50 เมตร ตำรวจจึงเรียงหน้าเดินออกมาเพื่อเตรียมตรวจสอบ แต่ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจผิดคิดว่าจะออกมาควบคุมตัวจึงใช้แผงเหล็กกดดันพร้อมทั้งเผชิญหน้า ก่อนจะมีการขว้างปาข้าวของใส่ตำรวจจนกลุ่มแกนนำต้องประกาศระงับเหตุ นานกว่า 10 นาทีเหตุการณ์จึงสงบ
มาทราบภายหลังว่ามีการขว้างเเก๊สน้ำตา (แต่ไม่ทราบที่มา) ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกรถพยาบาลและเรียกร้องขอน้ำเปล่าและน้ำเกลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา
...
จากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเท้าไปยังลานสวนหลวงสแควร์ด้านหลังสน.ปทุมวัน พบกับตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 50 นาย ที่ยืนเตรียมความพร้อมดูแลอำนวยความสะดวก ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะพยายามตะโกนถามว่าเป็นผู้ขว้างปาแก๊สน้ำตาใส่หรือไม่
...
พ.ต.ท สมยา เจริญราษฎร์ สารวัตรป้องกันเเละปราบปราม สน.ลำหิน เป็น 1 ในชุดควบคุมฝูงชน ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ใช้เเก๊สน้ำตาตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจ อีกทั้งตนเองยังเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการขว้างเเก๊สน้ำตาครั้งนี้ด้วย ยืนยันว่าที่นำกำลังตำรวจมารวมตัวด้านหลังสน.ปทุมวันนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ต้องการสลายการชุมนุม เเค่ต้องการนำกำลังตำรวจไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของสน.ปทุมวันเท่านั้น
ในเวลาไล่เลี่ยกัน บรรดาพ่อค้า แม่ค้าสวนหลวงสแควร์ ออกมาโวยวายตำรวจใช้แก๊สน้ำตาโดยไม่ได้บอกกล่าว ทำให้แก๊สบางส่วนกระเด็นมายังร้าน ส่งผลให้ลูกค้าที่นั่งกินอาหารหนีออกไปจนหมด พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจมาเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจยืนยัน ไม่ได้ยิงแก๊สน้ำตาจริงๆ
ขณะนายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตเเนวร่วมนปช. ระบุว่า ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ช่วงที่เกิดเหตุชุลมุนด้านหลังสน.ปทุมวัน ยืนยันว่าตนเห็นว่ามีการขว้างเเก๊สน้ำตามาจากฝั่งตำรวจ ส่วนตัวเข้าใจเเละยอมรับได้ว่าตำรวจต้องการระงับเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาจะสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เกิดจากอารมณ์ร่วมของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวกันเอง ตนเองก็พยายามเป็นตัวกลางเจรจาระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจเพื่อระงับไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย
20.50 น. ตำรวจปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมทั้งหมด ทุกคนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามฐานความผิดหลายข้อหา
...
21.00 น. แกนนำประกาศยุติการชุมนุม ขอให้ทุกคนกลับบ้าน
21.30 น. พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะเป็นทรงกลมพันด้วยเทปพลาสติกสีดำ บริเวณ หน้าประตูทางเข้าห้าง MBK Center จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างระบุว่าพบวัตถุต้องสงสัยตั้งแต่เวลา 21.30 น. มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว 2 ครั้งแต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เดินทางเข้ามาตรวจสอบ
ขณะเดียวกันได้มีการรวมกลุ่มการ์ดกลุ่มคณะราษฎรได้นำเทปกาวมาตั้งเป็นแนวกั้นเพื่อไม่ให้มีใครเข้าไปใกล้วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว โดยตำรวจเข้าตรวจสอบและเตรียมเปิดกล้องวงจรปิดหาว่าใครเป็นเจ้าของ ทำขึ้นมาเพื่อหวังป่วนหรือสร้างสถานการณ์หรือไม่ แต่สุดท้าย ... วัตถุดังกล่าว ก็ไม่ได้มีการระเบิดตูมตามอะไรขึ้นมา
จบแค่นี้ !!