svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ปฏิรูประบบทหารวางมาตรการคลังอาวุธหลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงกราด

08 กุมภาพันธ์ 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กองทัพภาคที่2 ยืนยันได้ปฏิรูประบบสวัสดิการทหารใหม่แล้วพร้อมวางมาตรการ รักษาความปลอดภัยคลังอาวุธอย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงกราดที่โคราช จนทำให้เกิดการสูญเสียมีผู้เสียชีวิต 30 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

8 กุมภาพันธ์ 2564 จากเหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารหน่วยกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุกราดยิงใจกลางเมืองโคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 58 ราย และในช่วงเวลา 16.00 น.วันนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยพลตรีสวราชย์ แสงผล รองแม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมเป็นประธานในพิธีทอดผ้าบังสุกุล อุทิศส่วนกุศลให้กับประชาชน 9 ราย ที่ถูก จ.ส.อ.จักรพันธ์ ยิงเสียชีวิตที่บริเวณวัดป่าศรัทธารวม และในวันพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) จะจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ 10 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 30 ราย 






ปฏิรูประบบทหารวางมาตรการคลังอาวุธหลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงกราด











ปฏิรูประบบทหารวางมาตรการคลังอาวุธหลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงกราด








โดยพลตรีสวราชย์ แสงผล รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า การเข้าไปแก้ปัญหาเรื่องโครงการกู้เงินสวัสดิการของกองทัพเพื่อจัดซื้อบ้านให้กับข้าราชการทหารซึ่งเกิดปัญหาและนำมาสู่สาเหตุการกราดยิงที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่ายังมีช่องว่างอยู่จริง เราได้เข้าไปปรับปรุงใหม่และจะพัฒนาให้รัดกุมมากขึ้น และที่ผ่านมาทางกองทัพบกได้ดำเนินการแล้วคือได้ระงับการดำเนินโครงการสวัสดิการดังกล่าวตั้งแต่หลังเกิดเหตุแล้ว และที่เกี่ยวกับเอกชนกองทัพก็ได้มีการพัฒนาให้เข้าระบบธนาคารพาณิชย์เพื่อให้มีมาตรฐานสากลและไม่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่เข้ามาเอาผลกำไรอีกต่อไป 








ปฏิรูประบบทหารวางมาตรการคลังอาวุธหลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงกราด







 

ทั้งนี้ผลการสอบสวนทหารที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ก่อเหตุก็ได้ถูกตัดสวัสดิการทุกอย่างและถอดยศไม่ได้รับการเยียวช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น ส่วนพันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแส ผู้บังคับบัญชาที่ถูกจ่าจักรพันธ์ฯ ยิงเสียชีวิตทางกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้สรุปผลการสอบสวนส่งให้ทางกองทัพบกพิจารณาแล้ว สำหรับมาตรการควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ในส่วนคลังอาวุธและคลังกระสุนวัตถุระเบิดทางกองทัพภาคที่ 2 ได้จัดชุดตรวจสอบมาตรฐานรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง มีการ รปภ.ค่ายฯ ปรับปรุงระบบเฝ้าตรวจ ระบบแจ้งเตือน จัดเวรยามหน้าคลังอาวุธ กล้องวงจรปิด ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัย เป็นต้น

ปฏิรูประบบทหารวางมาตรการคลังอาวุธหลังเกิดเหตุจ่าคลั่งยิงกราด

ส่วนมาตรการเยียว ผู้เสียชีวิต 31 ราย ได้รับเยียวยา 28 ราย รายละ 3.2 ล้านราย ตามเงื่อนไขรายบุคคล (เว้นผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ 3 ราย) ผู้บาดเจ็บ 57 ราย ได้รับการเยียวยา 56 ราย แบ่งเป็น บาดเจ็บเสี่ยงพิการ 3 ราย ประมาณรายละ 3.7 ล้านบาท, บาดเจ็บหนัก (พักรักษาตัวเกิน 20 วัน)  12 ราย  รายละ 6 แสน ถึง 1.4 ล้านบาท , บาดเจ็บหนัก (พักรักษาตัวไม่เกิน 20 วัน) 5 ราย รายละประมาณหนึ่งแสนสองหมื่นบาท, บาดเจ็บปลานกลาง 13 ราย รายละประมาณ 3 แสนบาท และบาดเจ็บเล็กน้อย 23 ราย รายละประมาณหนึ่งแสนสองหมื่นบาท (ยกเว้น 1 ราย)  ส่วนการบรรจุของทายาทของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บสาหัสเข้ารับราชการและรัฐวิสาหกิจ รวม 31 ราย กองทัพบก 26 ราย , ตำรวจแห่งชาติ 4ราย, และการรถไฟแห่งประเทศไทย 1 ราย.
















logoline