20 มกราคม 2564 กรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ วิไลวรรณ อยู่สำราญ ได้โพสต์ภาพบนโซเซียล พร้อมข้อความระบุว่า "งานวิวาห์ล่มค่ะ ช่วยกดไลค์กดแชร์หน่อยนะคะ งานนี้เจ้าบ่าวไม่มา เจ้าบ่าวผิดนัด เจ้าสาวรับแกทั้งน้ำตา สนแต่น้องค่ะ และทางบ้านเจ้าสาวและทางญาติเจ้าสาวมากค่ะ" ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นภาพพิธีแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่ง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของเจ้าสาว อยู่ที่หมู่ 10 บ้านปะคำ ตำบลสระพระ อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวบอกว่า คบหาดูใจกันมา 7 เดือน ฝ่ายชายพูดให้ความหวังตลอด พอจัดงานแต่งจริงๆกลับไม่มาตามที่สัญญาเอาไว้ ปล่อยให้ตนต้องแบกรับปัญหา อับอายอยู่ฝ่ายเดียวแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่ต้องดำเนินพิธีเพียงลำพัง เพราะฝ่ายชายบอกว่าจะมางานแต่งแน่นอน ซึ่งตอนนี้ยังรู้ศึกเศร้าและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ยังไงก็จะไม่ขอกลับไปคบหากันอีก จะขอดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ต่อมาฝ่ายชายได้เข้าพบตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและบอกว่าจำเป็นต้องเทงานแต่งเพราะไม่มีเงินค่าสินสอด
ล่าสุด วันนี้ (20 มกราคม 2564) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านว่าที่เจ้าสาวอีกครั้ง โดยพบกับนายสม อยู่สำราญ อายุ 43 ปี บิดาของน้องเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ว่าที่เจ้าสาวฯ ซึ่งเปิดเผยว่า ในตอนแรกทางครอบครัวจะไกล่เกลี่ย แต่หลายๆฝ่าย รวมถึงตำรวจ แนะนำว่าให้ดำเนินการตามคดีความให้ถึงที่สุด โดยหนี้งานแต่งได้ขอขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปก่อน เพราะตนและครอบครัวไม่มีเงินที่จะนำไปใช้หนี้จริง ๆ ส่วนที่ดินที่ไปจำนองไว้ ได้คุยกับเจ้าหนี้แล้วว่า ถ้ามีเงินเมื่อไร ตนจะรีบนำเงินไปใช้หนี้อย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้ แม้แต่เงินที่จะหาซื้อข้าวให้ลูกคนเล็กกินยังแทบจะไม่มี ซึ่งทางเจ้าหนี้ก็เข้าใจและรับรู้ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ ต่างจะช่วยขยายเวลาชำระหนี้ในครั้งนี้ออกไปให้
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผกก. สภ.พระทองคำ เผยความคืบหน้าของคดีว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธีรภัทร เขมสันเทียะ ว่าที่เจ้าบ่าว อายุ 20 ปี อยู่บ้านโนนสง่า ตำบลทัพรั้ง อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมาแล้ว ฐานกระทำชำเรา พรากผู้เยาว์พาบุคคลอายุกว่า 15 ปีไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งเป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้ ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนคดีทางแพ่งต้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกันในชั้นศาล ตอนนี้รอผลสอบปากคำของสหวิชาชีพและรอผลตรวจร่างกายฝ่ายหญิงจากทางแพทย์อยู่ ส่วนฝ่ายชายมารับทราบข้อกล่าวหา และได้ปล่อยตัวไปไม่ได้ควบคุมตัวไว้ หลังจากนี้ ต้องรอผลตรวจร่างกายจากทางแพทย์จึงจะเรียกมารับทราบข้อกลาวหาอีกทีหนึ่ง
โดยเบื้องต้นสอบปากคำฝ่ายชาย อ้างว่า ตอนนี้ยังไม่มีเงิน แต่หากมีเมื่อไรก็จะขอแก้ตัวโดยกลับไปแต่งงานด้วยใหม่ ขณะที่ฝ่ายหญิง บอกว่า ตอนนี้เดือดร้อนอย่างหนัก ฝ่ายชายไม่ยอมเข้าไปเจราเพื่อให้ความช่วยเหลือ ทำให้ต้องแบกภาระเรื่องหนี้สินงานแต่งเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเงินไปไถ่ถอนที่ดินที่จำนองเอาไว้และยังไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่หยิบยืมมา ทำได้แค่ขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ไปก่อน